มีปัญญาซื้อรถได้ ก็ต้องซื้อคาร์ซีทได้ ผมว่าตรรกะนี้มันไม่ได้นะ ????

เวลาคุณซื้อรถคุณยังไม่ซื้อตัว TOP เลย ทั้งที่มีถุงลมนิรภัยรอบคัน ทำไมทุกคนไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองกันเลย ยอมซื้อตัวรองๆลงมาที่มีแค่ถุงลมนิรภัยคู่หน้า หรือ ยอมประหยัดไปกว่านั้นเอารุ่นที่ไม่มีถุงลมนิรภัย  ทำไมมีปัญญาซื้อรถ แต่ไม่มีปัญญาซื้อตัว TOP ?????????

ดังนั้นคำว่า มีปัญญาซื้อรถได้ ก็ต้องมีปัญญาซื้อคาร์ซีทได้นี้มันก็อิหรอบเดียวกัน คนบางคนซื้อรถแค่เศษเงิน แต่บางคนเหมือนคนที่วิ่งสู้ฟัดมาแล้ว 100 กิโลหอบแฮ่กๆ กว่าจะได้รถซักคนลำบากรากเลือดผ่อนแทบไม่รอด แล้วไปบอกเขาว่าวิ่งมาตั้ง 100 โลฯ แล้วทำไมวิ่งต่ออีก 10 โลฯยังไม่ได้ มันใช่รึ 

ขณะที่ต้องการส่งเสริมให้คนมีลูก ท่านก็ออกกฎหมายคาร์ซีทมา แต่ไม่มีมาตรการรองรับ  จริงๆยังมีเวลา จัดโปรคนเสี้ยวสำหรับคาร์ซีทก็ยังดีนะ  แต่เข้าใจว่าไม่มีเงินแล้ว โบ๋เบ๋

คาร์ซีทสำหรับเด็กเป็นเรื่องดี และควรจะมี แต่ก็ต้องยอมรับว่ากระทบสังคมไทยที่เป็นสังคมครอบครัวใหญ่พ่อแม่ปู่ย่าตายายเต็มๆ เพราะรถยนตร์ในครอบครัวไทยปกติก็นั่งกันเกินที่นั่งอยู่แล้ว มีคาร์ซีทเข้ามาก็นั่งได้น้อยลงก็ต้องค่อยๆปรับตัวกันไป ไม่นับรถรับส่งนักเรียนอนุบาลที่ก็ไม่มีคาร์ซีทแน่ๆอยู่แล้ว

แต่ราคาคาร์ซีทใช่ถูกๆ  อยู่ดีๆประกาศเปรี้ยง คนมีลูกต้องไปซื้อหา ลูกคนเดียว ก็ครึ่งหมื่น ลูกสองคนก็เหยีบหมื่นแน่  เงินหมื่นสำหรับบางครอบครัวก็แค่เศษเงิน แต่สำหรับประเทศที่มีผู้ถือบัตรคนจนตั้ง 20 ล้านคน มันก็คงไม่ใช่ถูกๆ  ไม่นั่งก็ปรับ 2,000 ยาวไป

มันช่างสวนทางกับนโยบายส่งเสริมให้คนมีลูกจริงๆ  แค่คิดถึงค่าใช้จ่ายที่ตามมา กลายเป็นส่งเสริมให้อัตราการเกิดหดลงไปอีก

เพิ่มเติม*****
ในฐานะคนตั้งกระทู้ที่ดี ผมอุตสาห์นั่งอ่านทุกความเห็นมาจนจะ 200 ความเห็นแล้ว นอกจากจะตีความไปว่าผมแอนตี้การติดคาร์ซีทให้เด็กไปตามๆกันโดยแทบไม่อ่านแล้ว  ไม่มีใครตอบคำถามให้ซักคนว่า...

กฎหมายที่มีผลต่อชีวิต และการซื้อรถขนาดนี้ แจ้งให้ประชาชนทราบล่วงหน้า 4 เดือนก่อนบังคับใช้ มันก็ได้เหรอ นี้คือ Perfect Timming ที่ไม่สามารถ วางแผน หรือ ทำอะได้ดีกว่านี้แล้วใช่มั๊ย   ในความคิดคุณ ?  ถ้าทุกคนบอกว่าใช่ มันสุดวิสัยที่มนุษย์จะหยั่งรู้ได้ว่ากฎหมายจะคลอดตอนไหน

ผมก็คงเป็นคนขวางโลกไปเองจริงๆ   T_T  ที่คิดเองอยู่คนเดียว่าว่า มันไม่ใช่มั๊ย มันทำให้ดีกว่านี้ได้ใช่มั๊ย สำหรับมาตรการต่างๆที่ออกมา
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 82
ข้อเสนอเพิ่มเติมขอยกมาครับ เครดิตไอเดียคุณความเห็นที่ 6

อีกเรื่อง อิค่าปรับ 2,000 เนี่ยมาไง ทำไมไม่ปรับด้วยแถมคาร์ซีทด้วยซะเลยล่ะ ถ้าจะปรับราคานี้

ปรับ 2,000 + แถมคาซีทให้กลับบ้านด้วย เอ้อแบบนี้เมคเซ้นต์ หมดข้ออ้างความจนกันไป

ตำรวจก็ไม่ได้ขาดทุนเพราะทุกคนบอกว่าราคานี้ซื้อคาร์ซีทได้อยู่แล้ว เงินก็เงินเขา ไม่อยากเข้า Carseat Outlet ตามด่าน ก็ต้องให้เด็กนั่งมา

เรื่องอื่นก็ว่าไป แต่เรื่องคาร์ซีทนี้ ค่าปรับมันพอดีกับค่าของไงครับ

คุณอาจบอกว่าคุณจะมาทำอย่างนี้กับกฎหมายอันศักดิ์สิทธิ์ม่ายด้ายยยยยน๊าาาาาาาาา

คิดย้อนกลับไปว่าออกกฎหมายนี้มาเพื่ออะไร เพื่อเงิน 2,000 และได้ทำโทษคนเล่น หรือเพื่อให้เด้กได้นั่งคาซีทกันเยอะๆทั่วถึงที่สุด

แล้วเรากำลังทำเพื่อเด็กอยู่นะครับ  รัฐไม่เสียตังค์เพิ่ม เด็กได้ประโยชน์ อนาคตของชาติเลยนะครับ ปล่อยวางเรื่องลงโทษไปจะเป็นไร

หัดทำอะไรที่มัน Win-Win บ้างไรบ้าง  

แถมยังอุดปากข้ออ้างเรื่องความจน ไม่มีตังค์ซื้อ ฯลฯ ได้ด้วย จะอ้างไรทีนี้ของก็ให้แล้ว ยิงนัดเดียวได้นกทั้งฝูงแบบนี้ ไม่ทำก็โง่แล้ว
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
เรื่องของความปลอดภัย จริงๆ ไม่ต้องให้ใครมาบอกหรอก ควรจะสำนึกได้ด้วยตัวเอง แต่ก็อย่างว่า คุณภาพของคนมันไม่เท่ากัน ถึงมีนิยามของคำว่า "ตลาดล่าง" คนบางคนพูดหูซ้ายทะลุหูขวา พูดเท่าไรก็ไม่ฟัง คิดไม่ได้ ทำเองไม่เป็น ต้องโดนบังคับถึงจะยอมทำตาม คนไทยชอบแบบนี้แหละ
ความคิดเห็นที่ 13
เรื่องถุงลมนั่น"ผู้ใหญ่"ตัดสินใจให้"ตัวเอง" จะเอาความสะดวกสบายขนาดไหนชีวิตตัวเองมีค่าระดับไหนก็ตัดสินใจกันเองตามสบาย

แต่คาร์ซีทมันเป็นการบังคับให้ผู้ใหญ่ทำเพื่อ"เด็ก" เพราะผู้ใหญ่ดันมาตัดสินใจเรื่องความปลอดภัยแทน"เด็ก"โดยที่ไม่ได้อธิบายและถามจากตัวคนที่ได้ประโยชน์จากคาร์ซีท กฎหมายจึงต้องทำหน้าที่แทน"เด็ก"ไม่ให้โดนละเมิดสิทธิจากผู้ใหญ่ที่มาคิดแทน"เด็ก"

และอีกอย่างกฎหมายไม่ได้บังคับให้คนซื้อรถรุ่น TOP แต่กฎหมายบังคับให้คนติดตั้งที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กเพื่อความปลอดภัยของ"เด็ก"ที่ซื้อรถเองไม่ได้
ความคิดเห็นที่ 15
แปลว่ารัฐส่งเสริมเรื่อง "มีลูกเมื่อพร้อม" ไงครับ
ความคิดเห็นที่ 9
ราคา car seat กับราคาที่ต้องอัพเป็นรุ่นตัว top มันคนละเรื่อง
แล้วรุ่นรถที่แพงขึ้น มันก็มีส่วนแต่งอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ความปลอดภัยทั้งหมด

อีกอย่าง คือ car seat มีประโยชน์ในแง่ลดการตายของเด็กสูงกว่า ประโยชน์จาก airbag นะ
โดยเฉพาะถ้าคาดเข็มขัดอยู่แล้ว airbag ไม่ได้เพิ่มประโยชน์อะไรมากมาย  

อย่างในการศึกษานี้
https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/21720604/
ถ้าใส่ airbag แต่ไม่คาดเข็มขัด >>> ลดอัตราตาย 32% เทียบกับไม่ทำอะไรเลย
ถ้าคาดเข็มข้ด แต่ไม่มี airbag >>> ลดอัตราตาย 51% เทียบกับไม่ทำอะไรเลย
ถ้าคาดเข็มขัด + มี airbag >>> ลดอัตราตาย 62% เทียบกับไม่ทำอะไรเลย

ส่วนอันนี้
https://www.cdc.gov/transportationsafety/child_passenger_safety/cps-factsheet.html
car seat ในเด็ก ช่วยลดอัตราตาย 71-82% เมื่อเทียบกับการคาดเข็มขัดเฉย ๆ
นี่คือเทียบกับคาดเข็มขัดนะ ถ้าไม่ทำอะไรเลย หรือนั่งตักพ่อแม่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
ความคิดเห็นที่ 12
สำหรับผม การเอาเด็กเล็กนั่ง Baby seat เวลาโดยสารรถยนต์มันเป็นสิ่งที่ต้องทำครับ เหมือนขี่มอเตอร์ไซค์ต้องใส่หมวกนิรภัยนั่นแหละ มันเป็นเรื่องความปลอดภัยล้วนๆเลย จริงๆควรบังคับกันมานานแล้วด้วย ผมเองให้ลูกนั่งตั้งแต่นั่งรถวันแรกที่ออกจากรพ.หลังคลอด เพราะฉะนั้นเห็นด้วยที่จะออกกฎหมายมาบังคับ แต่......มันมีแต่ครับ

แต่ไหนแต่ไรมาบ้านเรามันเป็นบ้านเมืองแห่งการอลุ่มอล่วย บ้านเมืองแห่งการออกกฎหมายไปงั้นๆ แต่การบังคับใช้ห่วยแตก ทำจริงไม่ได้ อยู่ๆออกกฎหมายบังคับเรื่อง Baby seat มาตูม ให้เวลา 120 วัน พวกเอ็งจงไปหาซื้อมาใส่กันซะ แบบนี้มันก็ไม่โอเค กรอบเวลาที่ให้ประชาชนเตรียมตัวมันน้อยเกินไป และที่ก่อนออกกฎหมายมาพวกท่านๆได้คิดย้อนกลับไปหรือไม่ ว่ามันมีกฎหมายอะไรก่อนหน้าที่ตราเอาไว้แต่ปล่อยให้คนละเมิดกันมาเป็นสิบๆปีแล้วมันเกี่ยวเนื่องกับการบังคับใช้ Baby car seat นี้บ้าง

ยกตัวอย่างมาข้อนึงที่เห็นชัดที่สุดเลยคือ รถกระบะมีแคปจะติด Baby seat ยังไง ในเมื่อมันไม่มีเข็มขัดนิรภัยสำหรับคนที่นั่งแคป และแน่นอนว่าไม่มีจุดยึด ISO Fix เพราะว่าพื้นที่ตรงแคปนั้นจริงๆแล้วมันไม่ใช้พื้นที่สำหรับโดยสารด้วยซ้ำ ตามกฎหมายรถกระบะที่ติดแคปมันไม่ใช่รถยนต์โดยสารส่วนบุคคลแต่มันเอาไว้ขนของ แต่บ้านเราก็ปล่อยให้นั่งกันทั้งที่ตามกฎหมายแล้วมันผิด อันนี้ผมก็ไม่อยากด่าคนที่ซื้อรถกระบะมีแคปมาแล้วเอาพื้นที่แคปมานั่งโดยสารกัน เพราะว่าเค้าเข้าใจกันมาตลอดว่ามันทำได้ เพราะเราไม่ได้บังคับกันมาตั้งแต่แรก ชาวบ้านเค้าซื้อรถมาใช้สักคันเค้าก็อยากซื้อที่มันคุ้มๆ นั่งกัน 4-5 คนก็ได้ ขนของก็ขนได้ ราคาไม่แพงด้วย งั้นซื้อรถกระบะแคปนี่แหละคุ้มสุด เค้าไม่สนหรอกว่ารถมันไม่ได้จดทะเบียนเป็นรถยนต์โดยสารส่วนบุคคล เค้าสนแค่มันนั่งได้เพราะตำรวจไม่เคยสนใจว่ามันผิด เมื่อเร็วๆนี้ก็มีการมาออกข่าวว่าตำรวจจะเอาจริง จะจับปรับคนที่นั่งโดยสารรถกระบะแคป หรือโดยสารบนกระบะเหมือนกัน แล้วเป็นไง สุดท้ายก็แป๊กเหมือนเดิม โดนด่าเข้าหน่อยก็เลิกทำ บังคับใช้ไม่สำเร็จ

การบังคับใช้ Baby car seat ยังไงก็ควรทำครับ แต่ว่าต้องทำแบบให้เวลาประชาชนเค้าเตรียมตัว และก็ให้เวลาหน่วยงานที่รับผิดชอบเค้าไปไล่บังคับใช้กฎหมายข้อที่มันล้มเหลวอยู่ก่อนหน้าด้วย จะประกาศรอไว้เลยก็ได้ว่าจะบังคับใช้ Baby car seat แต่เริ่มบังคับใช้อีกห้าปีให้หลังนะ ทีนี้เฟสแรกเริ่มที่การรณรงค์ไปก่อนเลย อัดสื่อไปเรื่อยๆ ให้คนเค้ามีความตระหนักว่าทำไม Baby car seat มันถึงจำเป็น มีแล้วมันช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้เด็กได้ยังไง ไม่มีแล้วมันอันตรายขนาดไหน จริงๆแล้วทำเฟสแค่นี้คนที่เค้ามีลูกแล้วมีทุนทรัพย์เพียงพอเค้าก็ซื้อใช้เองนำไปก่อนแล้วตั้งแต่ยังไม่บังคับใช้กฎหมายด้วยซ้ำ แล้วระหว่างนี้ก็ไปเพิ่มความเข้มงวด เริ่มบังคับใช้กฎหมายเรื่องการโดยสารรถที่ไม่มีเข็มขัดนิรภัยสำหรับผู้โดยสารทุกคน แน่ล่ะ ข้อนี้ก็โดนกระแสต่อต้านหนักแน่นอน ทั้งพวกรถเก่า รถกระบะแคป หรือรถโดยสารสาธารณะ ก็คงต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะบังคับใช้สำเร็จ แต่ก็เป็นขั้นตอนที่ต้องทำ ถ้าต้องการจัดระเบียบและบังคับใช้กฎหมายให้ได้ แต่หากทำได้ มันก็จะลดปัญหาเกี่ยวเนื่องและทำให้การบังคับใช้กฎหมายข้ออื่นๆที่จะตราออกมาภายหลังสามารถทำได้ง่ายขึ้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่