Ep.2 จากไทยไปจีน ไม่นั่งเครื่องบินได้ไง?

   จากกระทู้ที่แล้วสถานการณ์ของผม
ค่อนข้างแย่ เพราะแผนที่วางเอาไว้ซะดิบดี
ดันมาพังตั้งแต่เริ่มแรก มาติดตามกันครับว่าผมจะเอา
ตัวรอดจากเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร? 

สามารถเข้าไปอ่านย้อนหลัง
Ep.1 : 100,000 เดียว แบกเป้ลุยเดี่ยว 7 เดือน 20 ประเทศ 3 ทวีป เอเชีย-ยุโรป-แอฟริกา ไม่ง้อเครื่องบิน!!
ได้ที่ลิ้งค์ https://m.pantip.com/topic/40447234

และหากเพื่อนๆอยากทราบ
เรื่องราวและข้อมูลการเดินทางของผมแบบ
ละเอียดยิบ สามารถเข้าไปอ่านย้อนหลังได้ใน

เฟสบุ๊คเพจ : หาตังค์เที่ยวรอบโลก
Link Page
YouTube : North Vlog



                   08.30น.ด่านเปิดตรงเวลาเป๊ะ เป็นด่านที่เงียบสงบมากที่สุดเท่าที่เคยเดินทางมา แทบไม่มีนักท่องเที่ยวสักคนเลย ถือเป็นเรื่องดีสำหรับผมเพราะไม่ต้องรอคิวนาน เมื่อลงตราประทับขาออกจากไทยบนพาสปอร์ตแล้ว ต้องนั่งรถบัสข้ามสะพานมิตรภาพไปยังฝั่งลาว 25 บาท ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที ผมก็หลุดมาอยู่ฝั่งลาวแล้ว

หน้าตาด่านตรวจคนเข้าเมืองไทย-ลาว
อ.เชียงของ จ.เชียงราย

                  สำหรับพลเมืองไทยที่มีพาสปอร์ตอยู่ในมือ สามารถเข้าพำนักในประเทศลาวได้ไม่เกิน 30 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่าและไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น ย้ำอีกครั้งครับว่า หากมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ไม่ต้องจ่ายในทุกกรณี เพราะถือเป็นการคอรัปชั่น

รถบัสข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว

                 09.15น. หลังจากผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองฝั่งลาวมาแล้ว ทุกอย่างก็ว่างเปล่า "จะไปไหนดีวะ?" ไม่รู้จะไปไหนดี รถบัสไปจิ้งหงก็คงออกไปนานแสนนานล่ะ ผมจึงเดินเข้าไปถามยังจุดเรียกรถโดยสาร (Information service) และตรงจุดนั้นเอง ผมก็ได้พบกับคุณลุงฝรั่งสูงอายุคนหนึ่ง ซึ่งเขากำลังจะเดินทางไปเมืองคุณหมิง 

                 เมื่อคุณลุงรู้ว่าผมไม่มีจุดหมายปลายทางที่แน่ชัด เเกจึงได้โอกาสชักจูงให้ผมร่วมทางไปกับเขาด้วย จริงๆแล้วเเกอยากแชร์ค่ารถสองแถวกับผมมากกว่าแหละ "โด่ว เห้อ"

           "แล้วมันอยู่ตรงไหนวะ ไอ่เมืองคุนหมิงเนี่ย?" ผมจึงทำการเรียกอากู๋ Google Maps เพื่อตรวจสอบตำแหน่งที่ตั้งของเมือง "อ๋อ มันอยู่ตรงนี้นี่เอง ไปด้วยๆคุณลุง" ผมจึงตัดสินใจร่วมทางไปกับคุณลุงอย่างไม่ลังเลใจ เพราะเมืองคุณหมิงอยู่ทางตอนเหนือของเมืองจิ้งหง ไม่เสียหายอะไรถ้าผมจะไป ในเมื่อเมืองคุนหมิงอยู่ในเส้นทางการเดินทางของผมพอดี "จะว่าผมใจง่ายก็ได้นะ แต่รอบนี้ผมรอดแล้ว เย้ๆๆ"

           พวกเราเเชร์ค่ารถสองแถวคนละ 150 บาท จากด่านตรวจคนเข้าเมืองไปยังสถานีขนส่ง Laos Wansheng International Passanger Freight CO.,LTD ที่นี่มีรถบัสไปหลายเมืองทางภาคใต้ของจีน หนึ่งในนั้นคือเมืองคุนหมิง แต่ราคาทำเอาผมจุกแทบร่วงลงไปกองอยู่กับพิ้น นั่งแค่คืนเดียวแต่ราคาปาไป 2,000 บาท "โอ้กอท แพงโคตร" จะให้ทำยังไงได้หล่ะ ในเมื่อแผนผิดเท่ากับชีวิตเปลี่ยน แต่ยังโชคดีที่ไม่ต้องนอนค้างคืนที่นี่อีกคืน ไม่งั้นค่าใช้จ่ายบานตะไลอ่วมอรทัยแน่นอน "มาถึงขั้นนี้แล้วจะกลับลำได้ไง ลุยโลด"

บรรยากาศสองข้างทางไปยังสถานีขนส่ง Laos Wansheng International Passanger Freight CO.,LTD

สถานีขนส่ง Laos Wansheng International Passanger Freight CO.,LTD

           10.30น. รถเคลื่อนตัวออกจากสถานีขนส่ง ปลายทางเมืองคุนหมิง ไม่มีทางเลือกอื่นใดที่เหมาะสมอีกแล้วในตอนนี้ นอกจากยอมจำนนต่อโชคชะตาและยอมเสียเงินจำนวนมากตั้งแต่เริ่มต้น 

           รถบัสคันนี้เป็นรถนอน เหมือนนอนเตียงที่บ้านเลย ผมชอบแบบนี้มาก นอนสบายมาก แม้จะต้องเบียดเสียดกันเล็กน้อย แต่โดยรวมถือว่าอบอุ่นดีเลยทีเดียว 


            15.30น.ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ผมก็เดินทางมาถึงชายแดนตรวจคนเข้าเมืองลาว-จีน ซึ่งด่านลาวมีชื่อว่า "ด่านบ่อเตน" ส่วนด่านจีนชื่อว่า "ด่านจีนโมฮัน" รู้สึกมั้ยครับว่า จากไทยมาถึงจีน ใช้เวลาเพียงแค่ 5-6
 ชั่วโมงเท่านั้นเอง "ไม่อยากจะเชื่อเลยใช่มั้ยครับว่ามันจะใกล้กันขนาดนี้? ผมก็แทบไม่เชื่อในสิ่งที่เพิ่งสัมผัสมาเมื่อตะกี้เหมือนกัน
  
              หลายๆคนลูกกะตาแทบถลนออกมาจากเบ้า เมื่อทราบว่าผมเดินทางจากไทยไปจีนโดยไม่นั่งเครื่องบิน พวกเขาแสดงอาการท่าทางไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ผมพูดจริงๆแล้วมันไม่ได้เป็นเรื่องแปลกอะไรที่คนไทยส่วนใหญ่จะไม่ทราบ เพราะเส้นทางนี้ไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัก น้อยคนที่จะได้มาสัมผัสกับเส้นทางสายนี้ ส่วนคนที่รู้แล้วก็อาจจะเลือกเซโนวกู๊ดบายเส้นทางนี้ เพราะคิดกันไปก่อนว่า มันไกลและไม่สะดวกสบายแน่นอน
     
              การเดินทางจากประเทศไทยไปยังประเทศจีน มีเส้นทางการเดินทางภาคพื้นดินอยู่หลากหลายวิธี แต่เท่าที่ผมทราบและเป็นวิธีที่นิยมกันมาก จะมีเพียงแค่ 4 เส้นทางเท่านั้น 

วิธีที่1
กรุงเทพ - เชียงของ - ท่าเรือบั๊ค(ข้าม แม่น้ำโขง) - 
ห้วยทราย - เมืองจิ้งหง

วิธีที่2
กรุงเทพ - เลย - หลวงพระบาง - คุนหมิง

วิธีที่3
กรุงเทพ - หนองคาย - เวียงจันทน์ - ฮานอย - 
เมืองหนานหนิง - ปักกิ่ง

วิธีที่4
กรุงเทพ - เชียงของ - ห้วยทราย - คุนหมิง

            หลังจากรอดชีวิตจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองฝั่งลาวที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมแต่ผมหัวชนฝาไม่จ่ายโว้ย ผมเดินทางต่อไปยังฝั่งชายแดนจีนโมฮัน ซึ่งสำหรับพลเมืองไทย การเดินทางเข้าประเทศจีนต้องขอวีซ่าล่วงหน้าก่อนนะครับ ไม่งั้นเข้าไม่ได้เด้อ

                                             
             ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองฝั่งจีนไปได้ เพราะเส้นทางนี้ไม่เป็นที่นิยมสำหรับคนไทย การที่มีคนไทยสักคนหนึ่งเดินทางมายังเส้นทางนี้ถือเป็นเรื่องแปลกมาก ดังนั้นสำหรับเพื่อนๆที่จะมาเส้นทางนี้ เตรียม คำตอบไว้ให้ดีเด้อ ผมโดนไปแค่ 3 คำถาม แต่เป็น 3 คำถามที่เกือบต้องตีรถกลับบ้านโดยไม่สมัครใจ

             รถบัสจะจอดรอผู้โดยสารอยู่ที่สถานีขนส่งจีนโมฮันประมาณ 2 ชั่วโมงเพื่อให้ผู้โดยสารรับประทานอาหารเย็นและเตรียมความพร้อมก่อนที่จะตรงดิ่งไปยังเมืองคุนหมิง

ธรรมชาติสองข้างทางระหว่างไป
เมืองคุนหมิง

          07.05น.ผมสะดุ้งตื่นจากการหลับใหลอย่างมีความสุข เพราะเสียงดังลั่นสนั่นทุ่งของพี่โชเฟอร์ที่กำลังไล่ทุกคนลงจากรถ ผมมาถึงจุดหมายปลายทางเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับพี่น้อง

 

            ลงจากรถปุ๊บผมมุ่งตรงไปจองตั๋วรถไฟปลายทางเมืองซีอานก่อนเลย เพราะเป็นเมืองถัดไปที่ผมจะไป แต่หลังจากที่ผมทราบราคาตั๋วแล้ว ผมนี่แทบช็อคตายตรงนั้นเลย 5,000 บาท "What the f.. k!!"

            "ตรูไม่ได้นั่งเครื่องนะฮัลโหล" ราคาแพงแบบนี้ขอบายไปหาที่พักก่อนแล้วกัน และด้วยความที่ไม่คาดคิดว่าจะต้องมาที่นี่ ผมจึงต้องมาเดินหาที่พักเอาดาบหน้า ร้อนก็ร้อน กระเป๋าที่แบกก็หนักแบบสุดๆ "โอ้ย หลังจะหักอยู่แล้ว แบกมาทำไม 30 โล ฟร่ะเนี่ย?"
   
              พระเจ้าก็ช่วยไม่ได้แล้วตอนนี้ แต่ก็ยังโชคดีที่ท่านส่งเด็กหนุ่มชาวคุนหมิงคนหนึ่งมาช่วยผมหลังจากที่ผมเดินหาที่พักมาแล้วประมาณ 2 ชั่วโมง เด็กหนุ่มคนนี้พาผมทัวร์เมืองคุนหมิงครับ พาเดินรอบเลย ไม่ใช่เดินเที่ยวนะ เดินหาที่พักนี่แหละ ไม่มีใครต้อนรับผมสักที่เลย งง แท้ เกิดอิหยังขึ้นวะ?

              หลังจากที่พวกเราเดินหาที่พักกันทั้งวัน โดยไม่ถงไม่ถามถึงสุขภาพหลังผมส๊ากกคำ เด็กหนุ่มรูปหล่อพาผมเดินไปยัง Tourist Information Service ผมจึงถึงบางอ้อว่าทำไมจึงไม่มีใครสักคนต้อนรับผมเลย เขาบอกผมว่า "เพราะคุณพูดภาษาจีนไม่ได้ จึงไม่มีใครอยากรับคุณ เขากลัวสื่อสารกับคุณไม่รู้เรื่อง มีทางเดียวเท่านั้นคือ เข้าพักที่โรงแรม International Hotel " ซึ่งราคาคืนละ 4,500 บาท 
    
               "บ๊ายบาย" แพงขนาดนี้ไม่เอาด้วยหรอกนะ ให้ตายเถอะ ที่พักถูกๆก็ไม่มี ตั๋วรถไฟถูกๆก็ไม่มี จะเอายังไงดีกับชีวิตตอนนี้ นอนข้างถนนเลยดีมั้ยคืนนี้?


-----------------------------

        มืดแปดด้านครับพี่น้อง นี่แหละคือ
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการผิดแผน
หรือคืนนี้ผมจะต้องนอนข้างถนนจริงๆหรอเนี่ย? ติดตามต่อได้ใน

Ep.3 : ทำงานแลกที่พักและอาหารฟรีใน
ต่างประเทศได้จริงๆหรอ?

หรือตามลิ้งค์นี้ได้เลยนะครับ
               
            ปล...อย่าได้คาดหวังรูปภาพในเมืองคุณหมิงนะครับ เพราะตอนนั้นมือถือแบตหมด แบตกล้องก็หมด "เห้อ ชีวิตตรู ฮ่าๆๆๆ"
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่