วัดป่า...มหาสนุก 60

วัดป่า...มหาสนุก 60
( เล่าจากเรื่องจริง แต่ให้อ่านเป็นนิยาย...อย่าอ่านเอาเรื่อง นะครับ )

เมื่อวันก่อนได้ไปงาน กฐิน ที่วัดป่าอนุสรณ์ ของหลวงพ่อเตี้ย
โดยปีนี้ หลวงพ่อท่านตั้งใจจะเอาเงินปัจจัยที่ได้จากกองกฐิน ไปสร้างเตาเผาศพ ...เมรุ ไฟฟ้า
เพราะที่วัดป่าแห่งนี้ ตั้งแต่โบราณมา ก็ไม่เคยมีเตาเผาศพ แบบถาวร
สมัยก่อนนั้น พวกชาวบ้านจะใช้การ...เผาสด
คือ เอาร่างของผู้ที่เสียชีวิต วางบนกองฟืนที่เตรียมไว้ ราดน้ำมัน แล้วเผากันสด ๆ เห็น ๆ เลย
หรือไม่ก็...ฝังดิน ในรายที่เสียชีวิตแบบไม่ค่อยดี เช่นเป็นโจรถูกฆ่าตาย หรือกรณีแปลก ๆ สารพัดจะใช้วิธีนี้

ต่อมาความเจริญมีมากขี้น วัดใกล้เคียงที่เป็น วัดมหานิกาย หรือวัดบ้าน จะมีการสร้างเมรุ เอาไว้
ชาวบ้านก็ไปใช้เผาศพ ที่วัดบ้านแทน
แต่ก็มีชาวบ้านที่เค้ามาถือศีล มาใส่บาตร ถวายจังหัน สวดมนต์เช้า สวดมนต์เย็นที่วัดนี้ ทู้กกก วัน
พากันมาบ่นให้ หลวงพ่อ ฟัง ว่า....
พวกเค้าตั้งใจ ถือศีล ปฏิบัติภาวนา เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อ ทุกวัน ๆ ๆ ๆ ๆ
แต่พอพวกเค้าถึงเวลาจากไป ตายแล้ว กลับเอาพวกเค้าไปเผาที่อื่น....มันรู้สึกน้อยใจ ไม่ยินยอมอย่างมาก
พวกเค้ารักวัดป่า แห่งนี้ รักและเชื่อฟังหลวงพ่ออย่างที่สุด
เค้าไม่อยากให้เอาร่างของเค้า ศพของเค้า ไปเผาที่อื่นเลย
อยากให้ เผาร่างที่นี่ แล้วโปรยเถ้ากระดูก....ไว้ที่วัดป่าอนุสรณ์ แห่งนี้

เรื่องนี้ชาวบ้าน มาบ่นให้ท่านฟัง มาหลายปีแล้ว....
จนในที่สุดมีคนมาบอกขายที่ดินหน้าวัด พื้นที่ 6 ไร่ 1.5 ล้าน
หลวงพ่อเตี้ย ท่านจึงตัดสินใจซื้อเพื่อทำเป็น เมรุ และศาลาตั้งศพ
แต่ก็ต้องใช้เงินจำนวนมาก ทั้งค่าที่ดิน  รวมค่าก่อสร้างแล้ว เกือบ 4 ล้าน 
บอกเผื่อท่านใดมีจิตกุศล อยากทำบุญในด้านนี้ ซึ่งอานิสงส์มากมายนัก
ยิ่งได้ร่วมบุญกับ พระอริยะสงฆ์ ก็ยิ่งทวีคูณเข้าไปอีก

ผมไปงาน กฐิน ปีนี้ ได้พบกับ...ครูบาจุก ที่เคยเล่าเรื่องของท่านไปหลายตอนแล้ว
เมื่อครั้งที่ผมบวชอยู่ก็ได้ ครูบา ทั้งหลายคอยประคับประคองช่วยให้อยู่ในผ้าเหลืองได้ครบพรรษา
การปฏิบัติธรรม ถ้าไม่มี กัลยาณมิตร ไม่มีเพื่อนที่ตั้งใจเดินไปในเส้นทางเดียวกัน
ก็คงจะยากที่เราจะมีกำลังใจฝ่าฟันไปได้ เพราะสังคมโลกมันมีแต่ความยั่วยวนของ กิเลส ตัณหา อุปาทาน
ต้องเอาตัวเรา เข้าไปสู่สังคมของคนที่ตั้งใจปฏิบัติฯ ภาวนา ไม่งั้นไปไม่รอด
ต้องวิ่งเข้าหา...แรงเหวี่ยง ถึงจะได้แรงพลังไปด้วยกัน
ต้องไปเห็นศรัทธาของคนอื่น แล้วเอามาเป็นกำลังใจของเรา
ผมสนิทกับ ครูบาจุก มากพอสมควรเลย ช่วยกันทำกิจวัตรด้วยกันแทบทุกวัน
ครั้งนี้ได้คุยสอบถามถึงเรื่องที่ท่าน ออกไปอยู่หมู่บ้านชายเขตแดน ไทย ลาว เขมร
เมื่อตอนที่ท่าน ธุดงค์ ไปเจอหมู่บ้านนี้ ไม่มีวัด หรือสำนักสงฆ์สักแห่ง
ชาวบ้านยังนิยม ถือผี เคารพกราบไหว้ผีสาง นางไม้
มีเพียง...ศาลปู่ตา อยู่แห่งเดียว
แต่ท่านกลับมีความรู้สึกแปลก ๆ เพราะเคยนิมิตเห็นสถานที่นี้หลายครั้ง
พวกชาวบ้านเอง ก็อยากให้ท่านอยู่ที่นี่ แต่ก็เกรงว่า....ท่านจะอยู่ไม่ได้ ทนบางอย่างไม่ไหว
ในที่สุด ครูบาจุก ท่านตัดสินใจลองพักที่นี่ดูกันสิ ว่าจะอยู่ได้มั้ย

และเล่าความรู้สึกบางอย่างให้ฟัง ว่า....
เมื่อตอนที่อยู่ วัดป่าอนุสรณ์ แห่งนี้....ไม่เคยรับรู้ถึงความยากลำบากสักนิด
ทุกวันก็อยู่ด้วยความมั่นใจ ว่ามี...พ่อแม่ครูอาจารย์ ท่านปกป้องเราทุกอย่าง
มีกินทุกวัน ก็เพราะเดินตามหลวงพ่อ...ไปบิณฑบาต
ชาวบ้านเค้ารัก เค้าศรัทธาท่าน เค้าก็ให้กิน ให้อยู่....ก็เพราะหลวงพ่อ
กุฏิ ที่พักที่อาศัย ก็แสนจะสุขสบาย เพราะ หลวงพ่อท่านทำ ท่านสร้างเอาไว้ให้พวกเราได้ใช้อย่างสุขสบาย
เรามีหน้าที่เพียง ทำกิจวัตร 10 อย่างให้ครบถ้วน แล้วปฏิบัติฯ ภาวนาเอาใส่ตัวไปแค่นั้นเอง
สบาย ๆ ชิว ๆ  เลยไม่รู้สำนึก ยังขี้เกียจตัวเป็นขน
แถมอยากจะออกไปผาดโผน เดินธุดงค์ ออกผจญภัย เพราะนึกว่าตัวเก่ง นึกว่ามันง่าย ๆ 
หลงละเมอ คิดไปเองว่าตัวเป็น...นกอินทรี ที่ปีกกล้าขาแข็งแล้ว

พอวันนึง หลวงพ่อท่านปล่อยให้ออกไปผจญภัยด้วยตัวเอง ตามที่ใจเรียกร้องนักหนา
ถึงได้รู้ว่า...ในโลกแห่งความเป็นจริง เราไม่ใช่ นกอินทรี
แต่เป็นแค่เพียง...ไก่ หรืออย่างดีก็ ไก่ชน เท่านั้นเอง
บิณฑบาต แต่ละวันได้เพียงข้าวเหนียว กับน้ำพริกนิดหน่อย ก็ให้คิดถึงหลวงพ่อทันที
แต่ก่อนนั้น อาหารการกิน การขบฉันอุดมสมบูรณ์ 
ก็เพราะคนเค้าศรัทธา...หลวงพ่อ ไม่ใช่ตัวครูบาท่าน
ทุกสิ่งทุกอย่างมันขาดแคลนไปซะหมด ไม่มีอะไรซักอย่าง...ไม้กวาดสักอันยังไม่มี
เดินไปเจอตะปูเก่า งอ ๆ แล้วก็ยังต้องเก็บเอาไว้ใช้ ไม่กล้าทิ้งขว้างอะไรสักอัน

ทุกวันที่ต้องอยู่ด้วยตัวเอง ปฏิบัติกิจวัตรไป ก็ให้นึกถึงพระคุณของหลวงพ่อ 
ที่เคยคุ้มหัวคุ้มตัวให้ร่มเย็นอยู่ทุกวัน จน...ชาชิน
ต่อเมื่อหลุดพ้นจาก วัดป่าฯ ของหลวงพ่อ แล้วนั่นแหละถึงได้สำนึก
ว่า...พระคุณของ พ่อแม่ครูอาจารย์ นั้นใหญ่หลวงท่วมหัวท่วมใจสักแค่ไหน

วันแรก ๆ ที่ไปอยู่ที่ ศาลปู่ตา ก็เจอดีเลย....ผีเจ้าที่ เจ้าป่า มาขับไล่ท่านสารพัดวิธี
ครูบาจุก ท่านสวดมนต์ก็แล้ว แผ่เมตตาให้สารพัดบทก็แล้ว ยังไม่ยอมลดราวาศอก สักนิด
ท่านต้องมาขอให้ หลวงพ่อเตี้ย ท่านพิจารณาหาวิธีประนีประนอมกับ ผีเจ้าที่ เจ้าป่า
หลวงพ่อ...ท่านบอกให้สวดมนต์เช้าเย็นอย่าได้ขาด
ตั้งจิตแน่วแน่ ...สมันตา ฯ อัญเชิญเทวดา ผู้เป็นใหญ่มาฟังธรรม
และต้องสวดบท...พระสูตรสำคัญทั้ง 3 บทด้วย
คือ...ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร , อนัตตลักขณสูตร , อาทิตตปริยยสูตร
ต้องสวด ทั้งเช้า ทั้งเย็น ทุกวัน 
แล้วแผ่เมตตาไม่มีประมาณออกไป

ผมถาม ครูบาจุก ว่าตอนนี้อยู่ได้แล้วใช่มั้ยครับ
ท่านหัวเราะ บอก...ตอนนี้ดีกันแล้ว มานั่งฟังสวดมนต์ทุกเย็น
ผมก็โมทนากับท่าน ด้วยความดีใจจริง ๆ
ท่านยังเล่าให้ฟังอีกว่า...... มีโยมผู้ใหญ่ เค้ามาบอกอนุญาตให้อยู่ที่นี่ได้
ผมถามว่า...ผู้ใหญ่บ้านเหรอ
ท่านอมยิ้ม... ผู้ใหญ่ แต่ไม่ใช่คน นะ ไม่ใช่คนอย่างเรา ๆ นะ...เข้าใจมั้ย
เค้ามาบอกให้อยู่ที่นี่ดีแล้ว ให้ตั้งใจปฏิบัติฯ ต่อไป จะคอยคุ้มครองให้ท่านอยู่ได้
ครูบา ท่านก็บอก...ผู้ใหญ่ ท่านนั้นไปว่า...
ตัวท่านยังเป็นเพียง พระ ผู้ตั้งใจธรรมดา ๆ เท่านั้น....ภูมิธรรม อะไรก็ยังไม่มี ยังไม่ได้สักอย่าง
ผู้ยิ่งใหญ่ท่านนั้น กลับบอกว่า....ไม่เป็นไรหรอก ตั้งใจปฏิบัติฯ ไป อยู่ไป ภาวนาไป ภูมิธรรมก็เพิ่มพูนขึ้นเองแน่นอน...อย่าท้อถอย นะ
ผมฟังท่านแล้ว...ยกมือขึ้นท่วมหัว โมทนากับท่านอย่างเต็มหัวใจ
เอื้อมมือไปจับจีวรท่าน กำเอาไว้แล้วบอกกับท่านว่า....ผมขอ ปวารณา ไว้ หากขาดเหลือสิ่งใด ก็บอกนะครับ

ครูบาท่าน ยิ้มดีใจ แล้วเล่าเรื่องประหลาดให้ฟัง....
ท่านใช้เวลา 2 ปี เริ่มสร้างกุฏิ สร้างศรัทธาให้ชาวบ้านหันมาสนใจพุทธศาสนา หันมาปฏิบัติธรรม
โดยท่านต้องทำเป็นตัวอย่าง เหมือนที่ หลวงพ่อเตี้ย ท่านเคยพูดบ่อย ๆ ว่า...
..... อยู่ให้เห็น อยู่ให้เย็น ทำให้ดู...เป็นครูที่ดี
หลายครั้งที่ท่านนั่งภาวนา ใจนิ่ง ๆ สบาย ๆ ...ท่านจะได้ยินเสียงสวดมนต์
ดังมาจากในถ้ำ ใกล้ ๆ กับกุฎิของท่านเสมอ ๆ
แต่ถ้าตั้งใจฟัง กลับไม่ได้ยินแล้ว
ผมถามว่า...เสียงสวดมนต์ เสียงคนเดียว หรือหลายคน
ท่านบอก...โอ๊ย สวดกันกระหึ่มเลย คงจะหลาย แหละ
ผมถามว่า...ครูบา เคยเดินเข้าไปดูมั้ย 
ท่านบอก...เคย ในถ้ำนั้น ภาวนาดีนะ แต่...แรงส์
แล้วท่านก็ลดเสียงลง เล่าเบา ๆ ว่า.....

วันนึง กลางวัน ๆ นี่แหละ มีเด็กหนุ่ม ๆ คนหนึ่ง ท่าทางเรียบร้อย เข้ามากราบท่าน
ท่านก็ถามว่า...มาจากไหน ล่ะ ท่าทางไม่ใช่คนแถวนี้
เค้าก็ชี้มือไปทาง ภูเขา แล้วบอกว่า...อยู่หลังภูเขาไปอีก
ผมถามว่า...แต่งตัวยังไงครับ
ท่านบอก...แต่งตัวธรรมดา เรียบร้อย ยังนึกว่าเป็น.นักศึกษา ซะอีก
พอหลายวันต่อมา ก็กลับมาอีก....แต่คราวนี้มี ผู้หญิงสาวคนหนึ่ง มาด้วย
แต่งตัวชุดไทย แบบในละครเลย แต่...ตัวสูง 8 ศอก
ผมก็ งง. ไอ้ 8 ศอก มันเท่ากับเท่าไหร่...4 ศอกเป็น 1 วา
แล้ว 1 วา เท่ากับ 2 เมตร
8 ศอก ก็เท่ากับ 2 วา....ห๊าาา เท่ากับสูง 4 เมตรเลย อ่ะ

ท่านพยักหน้าบอก...ใช่ พวกคนโบราณ สูงกว่าพวกเรา 2 เท่าขี้นไป
ท่านก็เลยถามว่า... เป็นใคร มาจากไหน
พวกเค้าตอบว่า...อยู่เลยภูเขาลูกนี้ไปอีกไกลพอสมควร
ผมรีบถาม....แล้วพวกเค้าเป็นใคร หรืออะไรกันล่ะครับ
ท่านบอก.... พวก บังบด หรือที่ทางเหนือเค้าเรียก...ลับแล
ผมตาโต อึ้งไปอึดใจใหญ่ ๆ  รีบจับมือครูบา เขย่า ๆ ให้เล่ามาเร็ว ๆ 

แต่ยังไม่ทันได้เล่า ได้ฟัง...หลวงพ่อเตี้ย เดินมาข้างงหลัง
เอ็ดตะโรลั่น... คุยอะไรกัน ไม่ต้องเล่า ไม่ต้องอยากรู้...ไม่ใช่เรื่องของเรา
เท่านั้นแหละ ทั้งพระ ทั้งโยม คือทั้งครูบา ทั้งผมมีอัน เผ่นแน่บบ ไปกันคนละทิศ ละทาง
เพราะเรื่องแบบอย่างนี้....หลวงพ่อ...ท่านไม่ให้เอามาคุยกัน
ไม่ให้เล่าให้กันฟัง โดยเฉพาะผลของการปฏิบัติฯ ภาวนา
ให้พูดคุย ถามได้...เฉพาะตัวผู้ภาวนา กับ หลวงพ่อ เท่านั้น
ผมเคยถามท่านว่า....ทำไมเรื่องแบบนี้ ถึงไม่ให้เล่าให้ฟังกัน ล่ะครับ

หลวงพ่อเตี้ย ท่านอธิบายว่า....เรื่องอย่างนี้ มันละเอียดอ่อนอย่างยิ่ง
สิ่งที่ได้รู้ ได้เห็น ได้สัมผัส ...มันมีทั้ง ของจริง และของปลอม
จิต ที่ภาวนามันมีกำลังมาก....มันโลดแล่นไปสุดฤทธิ์ สุดเดช
ไปทั้ง อดีต ไปทั้งอนาคต และสิ่งที่คิด ที่อยาก ที่จินตนาการเพ้อฝัน
ถ้าไม่มี...สติ ที่เข้มแข็งคอยกำกับไว้ มันก็เหมือน จรวด ที่พุ่งไปไร้ทิศทาง
สิ่งที่ผู้ภาวนา ได้...เห็น น่ะ เค้าเห็นจริง
แต่สิ่งที่เค้าเห็น น่ะ....มันไม่จริง
หรือ...เห็นจริง แต่ เห็นไม่หมด เห็นไม่ทั่ว แล้วคิดจินตนาการต่อเอาเอง เออเอง

ตอนนี้ ครูบาจุก ท่านกำลังรวบรวมชาวบ้านมาช่วยกันสร้างศาลา...
เพื่อจะได้มีที่สำหรับ ชาวบ้านมาสวดมนต์ด้วยกัน
โดยไปหาต้นไม้ที่ล้มแล้ว หรือถูกไฟป่าเสียหายบางส่วน แต่ต้องขออนุญาตจาก...ทหารในพื้นที่ซะก่อน
ซึ่ง ทหาร และผู้ใหญ่บ้านก็ดีใจ ที่จะได้มี สำนักสงฆ์ เอาไว้ให้พวกเค้าได้ทำบุญ ฟังเทศน์ กันซะที
เพียงแต่ไม่มี..ปัจจัย หรือเงินพอที่จะไปซื้อวัสดุก่อสร้าง
จึงต้องใช้ แรงงาน....กำลังแรงงาน ของครูบาจุก เองนี่แหละ
ทำทู้กกก อย่าง เรียกว่า....พระทำ จริง ๆ 

สำนักสงฆ์ชัยมงคลภูมะเกลือ
บ้านหนองผักแว่น
ต. สารภี 
อ.โพธิ์ไทร 
จ. อุบลราชธานี
ใกล้หมู่บ้าน... บั ง บ ด  
เมือง.... ลั บ แ ล

อนณ นิศารัตน์
โทร. - ไลน์
093-149-9564

วัดป่า...มหาสนุก 61
https://pantip.com/topic/39387834
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่