สวัสดีค่าา ชื่อแบมนะคะ นี้เป็นกระทู้ที่สองของเราแล้ววว 5555 เสียเงินอีกแล้ว แต่อยากสวยต้องไปต่อค่ะ
กระทู้นี้เป็นการเสริมจมูกครั้งแรกของเราเลย คือต้องบอกก่อนว่า ตอนแรกเราบอกแม่เลยว่า ไม่เสริม ยังไงก็ไม่เสริมแน่ ๆ เพราะกลัวเจ็บค่ะ ไปอ่านรีวิวมาหลาย ๆ ที่ เขาบอกว่ามันเจ็บตอนฉีดยาชา แต่ทีนี้พอถึงวัยนึง เราก็อยากรู้ว่า เอ๊...ถ้าเรามีดั้งหน้าจะเปลี่ยนเหมือนคนอื่นไหมน้าาา ที่เขาสวยขึ้นกันมาก ๆ เลย ก็เลยตัดสินใจหาดูรีวิวอีกครั้งค่ะ แล้วก็มาอ่านเจอของที่ รพ.ยันฮี ว่ามีคุณหมอเก่ง ๆ มือเบาหลายคน และที่สำคัญคือ !! .."ที่นี้ฉีดยานอนหลับให้เราก่อนที่จะฉีดยาชา.." ประจวบกับที่เราเคยกำจัดขนที่นี้ด้วย เราก็เลยตัดสินใจทำที่ รพ.ยันฮีค่ะ ..อ้ออ เราตัดสินใจทำกับคุณหมอธวัชชัยนะคะ เลื่อน ๆ รีวิวไป เห็นว่าคุณหมอมือเบา คนไข้ออกมาไม่ค่อยช้ำ ทำออกมาได้ทรงสวย ธรรมชาติแบบที่เราต้องการค่ะ 


..เกริ่นกันมานานแล้ว เริ่มกันดีกว่าค่ะ เราจะเผยโฉมหน้าก่อนทำจมูกของเราแล้วนะคะ 55555

เราตัดสินใจเข้ามาหาปรึกษาคุณหมอเมื่อวันที่ 25 เมษาค่ะ พอเดินมาถึงโรงพยาบาลแล้ว ก็จะเจอเค้าเตอร์ที่อยู่ตรงกลางเลยค่ะ เราก็เข้าไปบอกเขาว่าจะทำเสริมจมูก กับคุณหมอธวัชชัย แล้วจะมีพี่เจ้าหน้าที่พาเราขึ้นไปค่ะ จากนั้นก็จะชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดัน เสร็จแล้วก็นั่งรอพบคุณหมอ ..ถึงคิว พี่พยาบาลจะเรียกเข้าห้อง คุณหมอก็จะถามว่าอยากได้ทรงไหน และดูทรงจมูกของเรา พร้อมบอกวิธีการดูแลรักษาหลังทำค่ะ (ถ้าสงสัยอะไรถามคุณหมอได้เลย) ..เราดูทรงมาในเพจของคุณหมอ เราเลือกเป็นซิลิโคนมาตรฐานทรง Dolly Nose ค่ะ เราอยากได้แบบธรรมชาติ ไม่โด่งไม่พุ่งเกินไป จมูกเล็ก ๆ ปลายมน ๆ น่ารัก ๆ ค่ะ ..คุณหมอก็จะถามความพร้อมของเรา ถ้าเราพร้อมที่จะทำวันนี้ ก็สามารถทำได้เลย หรือว่ายังไม่พร้อมก็นัดกันอีกทีวันอื่นได้ค่าา

จากนั้นพี่พยาบาลเขาก็จะพาไปเตรียมตัวค่ะ มีเสื้อคลุมกับหมวกให้ใส่ แล้วนั่งรอในห้อง (เป็นห้องที่มีคนไข้คนอื่นนั่งรอด้วยค่ะ น่าจะเป็นห้องรอคิว เตรียมตัวขึ้นเขียง 55555 มีทีวีให้ดูค่ะ ชิว ๆ เลย ตอนนั้นเราไม่รู้สึกกลัวเลย อ่านรีวิวมาดี ><)

..เมื่อถึงคิวเรา พี่พยาบาลจะพาเราไปที่ห้องผ่าตัดค่ะ พี่เขาก็ให้เราขึ้นไปนอน จากนั้นก็ตัดขนจมูกและทำความสะอาดใบหน้าให้เราค่ะ ระหว่างนั้นเราก็คุยกับพี่พยาบาลไป เพราะเริ่มกลัว ๆ ขึ้นมานิด ๆ แล้วค่ะ 5555 ..เราถามพี่เขาเรื่องเวลาหายใจกับกลืนน้ำลาย พี่เขาบอกว่า หายใจทางจมูกได้ปกติ และพยายามกลืนน้ำลายบ่อย ๆ เพราะคนไข้ชอบสำลักน้ำลายกัน แล้วก็ชวนคุยเรื่อยเปื่อย คุยกับเราเพลินเลย ทำให้เราไม่ค่อยกลัวแล้ว ..หลังจากเคลียร์ใบหน้าและจมูกเสร็จแล้ว คุณหมอก็เข้ามา ดูทรงจมูกเราอีกที ละก็มาร์กจุดต่าง ๆ พร้อมกับพี่พยาบาลก็จะฉีดยานอนหลับที่มือให้เราค่ะ แล้วก็บอกว่า ให้กลืนน้ำลายนะคะ ..จังหวะนั้นคือ!! เราก็ไม่รู้สึกตัวเลย คุณหมอฉีดยาชาให้เราตอนไหนเราก็ไม่รู้สึก ตอนนั้นไม่รู้สึกอะไรจริง ๆ ค่ะ เรารู้สึกตัวอีกทีตอนใกล้เสร็จแล้ว แค่รู้สึกว่าทำอะไรกับที่จมูกเรา น่าจะเป็นตอนกำลังเย็บไหม แต่ไม่เจ็บเลยค่ะ ..ทำอะไรเรียบร้อยแล้ว ก็จะติดเฝือกอ่อนให้เรา (ที่เป็นสก็อตเทปแปะจมูก)

..ลงจากเตียงแล้ว ก็จะมีรถเข็นเข้ามารับเราไปที่ห้องนอนพักฟื้นค่ะ จะเบลอ ๆ ยานอนหลับนิดนึง พี่พยาบาลก็จะดูแลเราอย่างดี ให้นอนพักสัก 1-2 ชั่วโมง ตื่นมาเรารู้สึกตึง ๆ ปวด ๆ พี่เขาเลยให้ทานยาแก้ปวด เราจะได้ถุงยากลับบ้าน ในนั้นมียาต่าง ๆ ไม้พันสำลี น้ำเกลือ ยาทาแผล โคลแพค แล้วก็วิธีดูแลรักษา+การปฏิบัติตัวหลังทำ พร้อมใบนัดให้เข้ามาหาคุณหมออีกครั้งค่ะ (ไหมที่คุณหมอใช้จะเป็นไหมละลายนะคะ) แล้วถ้าเราลุกไหว ไม่เบลอ ๆ ก็สามารถกลับบ้านได้เลยค่ะ

กลับมาถึงบ้าน เราก็ประคบเย็นเลย คุณหมอแนะนำว่า ยิ่งประคบเยอะ มันจะทำให้บวมน้อย ..เทคนิคเราที่ให้บวมน้อย ๆ เราประคบเย็นด้วยน้ำแข็ง เรารู้สึกว่าโคลแพคห่อผ้าแล้วมันเย็นไม่ถึงจมูกเรา เราเลยใช้น้ำแข็งบด 2 ถุง ประคบทั้งสองฝั่งเลย ระวังอย่าให้มันโดนจมูกหนักไปนะคะ เดี๋ยวมันเบี้ยว ..อีกอย่างนึงคือ แม่เราไปซื้อยาจีนมาให้ค่ะ เขาบอกว่ายาจีนมันช่วยลดบวมได้ดีมากเลย แล้วก็อย่าลืมเช็ด ทำความสะอาดแผลเช้าเย็นนะคะ แผลเราจะได้หายไว ๆ ไม่มีปัญหาทีหลัง


 2-3 วันแรก เราประคบหนักมากกกกก เลยไม่ได้ถ่ายรูปเลยค่ะ เพราะเดี๋ยวเรามีวันที่จะต้องไปออกงาน กลัวมันจะบวม ..เวลาประคบ เราแนะนำว่า นั่งบ้างนอนบ้างนะคะ เพราะถ้านอนเยอะมันจะยิ่งทำให้บวม (ประคบเย็นแค่ 1-3 วันแรกนะคะ เพราะการประคบเย็นถึงจะช่วยลดบวม ทำให้เลือดแข็งตัวและหยุดไหลก็จริง แต่ถ้าประคบมากไปมันก็ไม่ดี) เวลานอนตอนกลางคืน ก็ไม่ต้องประคบก็ได้ นอนหมอนสูง และไม่นอนตะแคงนะคะ เรานอนแบบนี้ประมาณเดือนนึง เพราะเราเสริมครั้งแรก เลยกังวลมาก อยากให้มันออกมาดี ไม่เบี้ยว เราไม่อยากแก้


วันที่ 5 เราถอดเฝือกอ่อนออกแล้วค่ะ เพราะพรุ่งนี้เราต้องแต่งหน้าไปงาน ..ก่อนแกะออกตื่นเต้นมากเลย เพราะจะได้เห็นหน้าตัวเองแบบเต็ม ๆ แล้วว่าจะเป็นยังไง ส่วนตัวเราชอบนะคะ มองข้าง ๆ เราชอบมาก ๆ เลย คือมันไม่โด่งไป ธรรมชาติ แบบที่เราต้องการเลย แต่มองข้างหน้าอาจจะยังเห็นไม่ชัด เพราะแรก ๆ ยังจะบวมอยู่ จมูกยังไม่รัดแกน คุณหมอบอกว่า จะค่อย ๆ เข้าที่ไปเรื่อย ๆ 3 เดือนถึงจะเริ่มชัดเจน 


นี้เลยย ที่บอกว่าจะมางาน เป็นแป้งฝุ่นคุมมัน แป้งฝุ่นสำหรับคนเป็นสิว ของ Miuskin ..พอแต่งหน้าแล้วดูดีเลยยย เรายิ่งชอบมากกก รอยเหลือง ๆ เมื่อคืนที่ใต้ตา ใช้เครื่องสำอางกลบก็มิด ..ส่วนตัวเราไม่ได้เอาไข่ต้มมาประคบอุ่นนะคะ แม่บอกว่า มันยิ่งจะทำให้หน้าเหลือง แต่การประคบอุ่นก็ดีนะคะ เพราะความร้อนยังช่วยให้ลิ่มเลือดเก่าละลายเร็วขึ้น แถมยังส่งผลให้พังผืดภายในที่แข็งเป็นไตนุ่มตัวเร็วขี้นด้วย (ข้อมูลจากเน็ตค่ะ 5555) แต่ส่วนตัวแล้วที่เราไม่ได้ประคบอุ่น ก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ


รูปหลังทำวันต่าง ๆ เราเอาไว้รวมกัน ก็น่าจะประมาณเดือนนึงแล้วค่ะ ..ทุกคนนนน ดูรูปบนขวาาา เราชอบมากเลย >< แบบมันละมุนนีจริง ๆ 55555 แต่รูปถ่ายข้างหน้าก็ยังคงเห็นไม่ค่อยชัดค่ะ แต่เราก็ว่าโอเคอยู่นะคะ มันแบบไม่โป๊ะ เราไม่อยากให้มันเป็นแท่ง ๆ 

..รูปบนขวาน่าจะเป็นวันที่เราเข้ามาพบคุณหมออีกครั้งนึงค่ะ คุณหมอก็จะดูจมูกเรา ลองจับ ๆ ที่จมูก ถามว่าเรายังรู้สึกปวดไหม ถามถึงความพอใจของจมูก ซึ่งเราพอใจมากกก แล้วก็จะให้พี่พยาบาลพาไปตัดปมไหมให้ค่ะ ไหมที่ใช้เป็นไหมละลาย แต่ตัดปมไหมออกหน่อย เราจะได้ไม่รู้สึกระคายเคืองเวลาเราทำแผล

ต่อไปจะเป็นรูปปัจจุบันของเรานะคะ แท่แด้นนนน



และนี้คือรูปเมื่อวันที่ 23 มิถุนาค่ะ เกือบ 2 เดือนแล้วนั่นเองงงง !! โดยรวมตอนนี้ทุกอย่างโอเคค่ะ เราชอบทรงจมูก เราว่ามันสวยเข้ากับรูปหน้าเราดีค่ะ หน้าเราดูมีมิติมากขึ้น (ยืนยันได้จากรูปก่อนทำ-หลังทำต้นกระทู้ 5555) ..เรื่องมาตรฐาน ความสะอาด และความปลอดภัยเราก็หมดห่วงอยู่แล้ว และคุณหมอธวัชชัยกับพี่ ๆ พยาบาล ที่รพ.ยันฮี ก็น่ารักและใจดี ดูแลเราดีมาก ๆ คอยตอบคำถามในเรื่องที่เราสงสัยให้เราเข้าใจได้อย่างดีเลย

..ที่เราทำเป็นซิลิโคนมาตรฐาน ราคา 15,000 บาท เราว่าเป็นราคาที่ไม่แพงเลย มันโอเคมาก ๆ เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่เราได้ แล้วเหมือนตอนนี้เราเห็นในเพจของรพ.ยันฮี ว่ากำลังมีโปรโมชั่น ลดเหลือ 9,900 บาทนะคะ พร้อมโปรผ่อน 0% นาน 6 เดือนเลย (หมดโปร 31 ธ.ค. 2562)

สุดท้ายนี้ถ้ามีอะไรสงสัย สอบถามเราก่อนก็ได้นะคะ ขอบคุณที่อ่านรีวิวกระทู้ที่ 2 ของเราจนจบน้าาา ^^ 
(รีวิวเราขาดตกบกพร่องข้อมูลที่ควรบอกตรงไหน ติชมได้เลยนะคะ วันนี้ครบ 2 เดือนแล้ว เราอาจจะตกหล่นขั้นตอนไปบ้าง TT)


(สนใจส่องกระทู้รีวิวกำจัดขนหน้าแข้ง+ขนรักแร้ด้วยคลื่นวิทยุของเรา ได้ที่ https://pantip.com/topic/34731224 นี้เลยน้าา ตอนนั้นดั้งก็ยังแหมบอยู่เลย 55555)