สำหรับการลงทุนเราไม่จำเป็นต้องใช้ท่ายากเสมอไป ก็สามารถประสบความสำเร็จเป็นเจ้าของ “หุ้น 4 เด้ง” ได้ไม่ยากเหมือนกันนะครับ
.
การมองหาหุ้นที่เติบโตเอาแค่ 10% ต่อปี และเป็นการเติบโตของรายได้ด้วยนะ ไม่ใช่การเติบโตของกำไรด้วยซ้ำ จะทำให้เรารวยสี่เท่าตัวได้อย่างไรนั้น ให้นายแว่นลงทุนเล่าให้ฟังดังต่อไปนี้เลยครับ
.
มองหาหุ้นที่เติบโตตามกระแสเมกะเทรนด์
.
การมองหาหุ้นที่เติบโตตามกระแสเมกะเทรนด์นั้นเป็นเรื่องง่ายแสนง่าย เพราะเราก็เห็น ๆ กันอยู่แล้วว่า เทรนด์ในอนาคตมันมีอะไรบ้าง และแน่นอนที่สุดว่า หนึ่งในนั้นก็คือ สังคมผู้สูงอายุ
.
ตัวผมเองนั้นเกิดในยุคเจนเนอเรชั่นเอ็กซ์ ซึ่งตามสถิติคร่าว ๆ คนยุคผมเกิดปีละราว เก้าแสน คนต่อปี หากหนึ่งเจนเนอเรชั่นมีช่วงเวลาสิบปี เท่ากับคนรุ่นผมมีประชากรรวมแบบคร่าว 9 ล้านคน
.
ซึ่งแน่นอนที่สุดว่า คนยุคผมจะกลายเป็นคนชรา หรือคนแก่ในอีกสิบกว่าปีข้างหน้า และสิ่งที่คนแก่ต้องเข้าใช้บริการบ่อย ๆ คงหนีไม่พ้น โรงพยาบาลนั่นเอง
.
หาหุ้นโรงพยาบาลที่เติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี
.
พอเรารู้แบบนี้ เราก็ต้องมองหาหุ้นโรงพยาบาลที่มีแนวโน้มเติบโตตามธีมของเราก็คือ 10% ต่อปี โดยเฉลี่ยนะครับ ซึ่งผมขอยกตัวอย่างหุ้น BCH หรือ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน)
.
ต้องขอขอบคุณ Finnomena ที่ทำเว็บข้อมูลย้อนหลังสิบปีมาให้ใช้ จากข้อมูลดังกล่าวทำให้ผมสามารถย้อนกลับไปดูการเติบโตของหุ้นตัวนี้ในรอบสิบปีที่ผ่านมา และแสดงดังภาพ ซึ่งจะเห็นว่า บางปีเติบโต บางปีเติบโตต่ำ แต่ผมขอสรุปโดยภาพรวมว่ามันโตเฉลี่ยตามที่เราต้องการ
.
วางเงินลงทุนในหุ้นตัวนี้
.
จากนั้นเราลองมาคิดพิจารณากันว่าหากเรามีเงินต้นแค่ 1 แสนบาท และเอาไปซื้อหุ้นตัวนี้ด้วยเงินทั้งหมดที่มี และไม่มีการเติมเงินเพิ่ม ไม่เอาเงินปันผลมาซื้อทบด้วยซ้ำ แค่ซื้อทิ้งไว้เฉย ๆ ผลที่ได้จะเป็นอย่างไรบ้างนะ
.
ผลที่ได้เป็นดังภาพที่แสดงข้างต้น เราจะเห็นว่าเงินหนึ่งแสนบาทในปี 2552 เติบโตเป็นเท่าตัวในปี 2557 คือกลายเป็นเงินสองแสนเศษเลยทีเดียว และมหัศจรรย์กว่านั้น ในปี 2560 เงินหนึ่งแสนที่เราวางไว้เฉย ๆ กับหุ้นตัวนี้โตเป็นเงิน 4.2 แสนบาท หรือโตกว่า 4.2 เท่าตัว หุ้น 4 เด้งเกิดขึ้นแล้ว !
.
มากไปกว่านั้น หากเรามีเงินต้น 1 ล้านบาท อาจเป็นเพราะเราขยันทำงานหาเงิน และเก็บเงินล้านแรกได้รวดเร็วทันใจ และเราก็วางเงินลงทุนไปกับหุ้น BCH เงินหนึ่งล้านในวันนั้นจะกลายเป็นเงิน 4.2 ล้านบาทในวันนี้ โดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่ต้องใช้ท่ายาก ซื้อ ๆ ขาย ๆ หุ้นบ่อย ๆ เราไม่ทำอะไรเลยเกือบสิบปีเต็ม ผลลัพธ์ที่ได้แสนน่าทึ่ง !
.
ข้อสรุป และข้อคิดก็คือ … การรวยง่าย ๆ ด้วยการอยู่เฉย ๆ แล้วรวยนั้นทำได้จริง ๆ นะครับ แต่เราต้องมองเห็นหุ้นเติบโตจริง ๆ ไม่ต้องคิดอะไรให้ยากเย็นเข็ญใจแต่ประการใด แค่ซื้อ และถือให้ยาวเท่าที่เราจะทำได้ แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่า หุ้นตัวนี้เติบโตขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว ถ้าเรามั่นใจก็ทำต่อไป แต่ถ้าไม่ใช่ ก็ต้องหาหุ้นตัวใหม่ ซึ่งเป็นการทำงานน้อยมาก คือทำแค่หนึ่งครั้งในรอบเกือบสิบปีนั่นเอง
#นายแว่นลงทุน
.
เป็นเจ้าของหุ้น 4 เด้ง ด้วยลงทุนในหุ้นที่เติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี ผลจะเป็นอย่างไร
.
การมองหาหุ้นที่เติบโตเอาแค่ 10% ต่อปี และเป็นการเติบโตของรายได้ด้วยนะ ไม่ใช่การเติบโตของกำไรด้วยซ้ำ จะทำให้เรารวยสี่เท่าตัวได้อย่างไรนั้น ให้นายแว่นลงทุนเล่าให้ฟังดังต่อไปนี้เลยครับ
.
มองหาหุ้นที่เติบโตตามกระแสเมกะเทรนด์
.
การมองหาหุ้นที่เติบโตตามกระแสเมกะเทรนด์นั้นเป็นเรื่องง่ายแสนง่าย เพราะเราก็เห็น ๆ กันอยู่แล้วว่า เทรนด์ในอนาคตมันมีอะไรบ้าง และแน่นอนที่สุดว่า หนึ่งในนั้นก็คือ สังคมผู้สูงอายุ
.
ตัวผมเองนั้นเกิดในยุคเจนเนอเรชั่นเอ็กซ์ ซึ่งตามสถิติคร่าว ๆ คนยุคผมเกิดปีละราว เก้าแสน คนต่อปี หากหนึ่งเจนเนอเรชั่นมีช่วงเวลาสิบปี เท่ากับคนรุ่นผมมีประชากรรวมแบบคร่าว 9 ล้านคน
.
ซึ่งแน่นอนที่สุดว่า คนยุคผมจะกลายเป็นคนชรา หรือคนแก่ในอีกสิบกว่าปีข้างหน้า และสิ่งที่คนแก่ต้องเข้าใช้บริการบ่อย ๆ คงหนีไม่พ้น โรงพยาบาลนั่นเอง
.
หาหุ้นโรงพยาบาลที่เติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี
.
พอเรารู้แบบนี้ เราก็ต้องมองหาหุ้นโรงพยาบาลที่มีแนวโน้มเติบโตตามธีมของเราก็คือ 10% ต่อปี โดยเฉลี่ยนะครับ ซึ่งผมขอยกตัวอย่างหุ้น BCH หรือ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน)
.
ต้องขอขอบคุณ Finnomena ที่ทำเว็บข้อมูลย้อนหลังสิบปีมาให้ใช้ จากข้อมูลดังกล่าวทำให้ผมสามารถย้อนกลับไปดูการเติบโตของหุ้นตัวนี้ในรอบสิบปีที่ผ่านมา และแสดงดังภาพ ซึ่งจะเห็นว่า บางปีเติบโต บางปีเติบโตต่ำ แต่ผมขอสรุปโดยภาพรวมว่ามันโตเฉลี่ยตามที่เราต้องการ
.
วางเงินลงทุนในหุ้นตัวนี้
.
จากนั้นเราลองมาคิดพิจารณากันว่าหากเรามีเงินต้นแค่ 1 แสนบาท และเอาไปซื้อหุ้นตัวนี้ด้วยเงินทั้งหมดที่มี และไม่มีการเติมเงินเพิ่ม ไม่เอาเงินปันผลมาซื้อทบด้วยซ้ำ แค่ซื้อทิ้งไว้เฉย ๆ ผลที่ได้จะเป็นอย่างไรบ้างนะ
.
ผลที่ได้เป็นดังภาพที่แสดงข้างต้น เราจะเห็นว่าเงินหนึ่งแสนบาทในปี 2552 เติบโตเป็นเท่าตัวในปี 2557 คือกลายเป็นเงินสองแสนเศษเลยทีเดียว และมหัศจรรย์กว่านั้น ในปี 2560 เงินหนึ่งแสนที่เราวางไว้เฉย ๆ กับหุ้นตัวนี้โตเป็นเงิน 4.2 แสนบาท หรือโตกว่า 4.2 เท่าตัว หุ้น 4 เด้งเกิดขึ้นแล้ว !
.
มากไปกว่านั้น หากเรามีเงินต้น 1 ล้านบาท อาจเป็นเพราะเราขยันทำงานหาเงิน และเก็บเงินล้านแรกได้รวดเร็วทันใจ และเราก็วางเงินลงทุนไปกับหุ้น BCH เงินหนึ่งล้านในวันนั้นจะกลายเป็นเงิน 4.2 ล้านบาทในวันนี้ โดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่ต้องใช้ท่ายาก ซื้อ ๆ ขาย ๆ หุ้นบ่อย ๆ เราไม่ทำอะไรเลยเกือบสิบปีเต็ม ผลลัพธ์ที่ได้แสนน่าทึ่ง !
.
ข้อสรุป และข้อคิดก็คือ … การรวยง่าย ๆ ด้วยการอยู่เฉย ๆ แล้วรวยนั้นทำได้จริง ๆ นะครับ แต่เราต้องมองเห็นหุ้นเติบโตจริง ๆ ไม่ต้องคิดอะไรให้ยากเย็นเข็ญใจแต่ประการใด แค่ซื้อ และถือให้ยาวเท่าที่เราจะทำได้ แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่า หุ้นตัวนี้เติบโตขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว ถ้าเรามั่นใจก็ทำต่อไป แต่ถ้าไม่ใช่ ก็ต้องหาหุ้นตัวใหม่ ซึ่งเป็นการทำงานน้อยมาก คือทำแค่หนึ่งครั้งในรอบเกือบสิบปีนั่นเอง #นายแว่นลงทุน
.