หนอนฯเป็นคนชอบกินโจ๊กมาก รวมถึงข้าวต้มด้วย

สัปดาห์นี้มีโอกาสได้ลากกระเป๋าเข้ามานอนในกรุงเทพ  เนื่องจากมีงานแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับอาชีพ  อีกทั้งหนอนฯเชิญแขกต่างชาติ
มาเที่ยวเล่นงานนี้  หนอนฯและหุ้นส่วนเลยพากันเปิดโรงแรมนอนกันแถวสุขุมวิทเพื่อดูแลแขกและไปงานสะดวก

วันหนึ่งเราคือหนอนฯและหุ้นส่วน ก็ตื่นเช้าและหนีแขกไปหากินโจ๊กระดับเลื่องลือ
หนอนฯเอง นอกจากชอบกินแล้ว ในอนาคตยังอยากเปิดร้านขายโจ๊กด้วย  ดังนั้นจึงมักชอบเสาะหาร้านดังๆอร่อยเด็ดดวงเพื่อชิมและพยายามจะแกะสูตร อิอิ

เราขึ้นBTS ลงที่นานา เดินนิดเดียวก็ถึงล่ะค่ะ
มีเรื่องฮาคือ

หนอนฯ : เอาข้าวต้มเป่าฮื้อสองที่ค่ะ และขอชาจีนร้อน
น้องพนักงาน : ค่ะ   

เธอรับออร์เดอร์แล้วก็จากไป  เพียงไม่นานข้าวต้มสองถ้วยถูกนำมาเสิร์ฟ   น้องพนักงานถามว่า ไม่ทราบรับพวกซอสแม้กกี้ไหมคะ  จะนำมาให้

ณ ตอนนั้น  หนอนฯกะเพื่อนกำลังเม้าท์กันม่วนอยู่  ก็บอก  ไม่ค่ะ ไม่เอา ขอบคุณค่ะ คือเราสองคนไม่กินเค็มไงคะ  อาหารเนี่ยเสิร์ฟมายังไงก็กินอย่างนั้น ไม่เติมน้ำปลาหรือซอสเค็มๆเพิ่ม

แต่!

หนอนฯเอาช้อนตักๆคนๆในถ้วย  มันไม่มีอะไรเลย  นอกจากข้าวและกลิ่นหอมอ่อนโชยแตะจมูก
ชักจะงง  เราทำอะไรผิดไปหรือปล่าวฟะ
เลยเรียกพนักงานคนอื่นมากระซิบถาม

หนอนฯ : ชี้ที่ถ้วยข้าวแล้วถามว่า  "นี่อะไรคะ"
พนักงาน : ข้าวต้มเปล่าๆครับ

ฮะ! ข้าวต้มเปล่า
ก็ขำกันกลิ้งไปทั้งลูกค้าและน้องพนักงาน  เรื่องของเรื่องคือ หนอนฯดันสั่งข้าวต้ม  และคำว่าเป่าฮื้อไม่ชัด น้องพนักงานได้ยินเป็นข้าวต้มเปล่า เป็นงั้นไป มิน่าน้องเลยเสนอจะเอาซอสมาให้เหยาะข้าวต้มกิน

เอิ่ม  คือน้องคะ  พี่ผิดเอง พี่สั่งผิด แถมไม่ชัดเจน 
เอาใหม่  ขอเป็น โจ๊กเป๋าฮื้อค่ะ

เอาล่ะ  ในที่สุดเราก็ได้ในสิ่งที่ตั้งใจมากิน

อนาคตแม่ค้าขายโจ๊กอย่างหนอนฯชิมมาเยอะค่ะ อย่างโจ๊กปริ้นซ์ที่บางรัก ก็เพิ่งกินมาเมื่อเช้า12 โจ๊กอร่อย ไม่ใส่ไข่ เอาปาท่องโก๋หนึ่งถุง จ่ายไป45 บาท

พอมากินที่โรงแรมแลนมาร์คเข้า คนละถ้วยในราคาถ้วยละ590นี่ หนอนฯควักกระเป๋าจ่ายดังหนึบ!

เอาล่ะ  ถ้าไม่พูดถึงเรื่องราคา  เอาคุณภาพโจ๊กล้วนๆ  ต้องบอกเลยว่าเนื้อเนียน รสชาติกลมกล่อม สมควรแก่ที่หลายท่านบอกว่าหนอนฯควรมาลอง
อันที่จริงเขามีหลายอย่างค่ะ  ถ้าพวกหมู กุ้ง พวกนี้ราคาถ้วยละไม่ถึงสามร้อย  แต่สำหรับเป๋าฮื้อนั้น ลำพังเป๋าฮื้อกระปองราคาก็แพงมากอยู่แล้ว

เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์  หนอนฯเพิ่งไปกินเสี่ยวหลงเปาเจ้าเก่าแก่ในไทเป ที่ร้านก็มีเมนูนี้ขาย ในราคาถ้วยละสองร้อยกว่า  แต่ต้องบอกว่าเมื่อเที่ยบกับโจ๊กสไตล์ฮ่องกงของที่นี่   แลนด์มาร์คนี่อร่อยกว่ามากค่ะ

หน้าตาธรรมดานะคะ
เสิร์ฟมาพร้อมกับขิงสอยและกระเทียมเจียว


กินกันสองคน คนละถ้วย ก็จ่ายไปตามนั้น

วันนั้นเราเห็นเขามีข้าวแช่ขาย  หุ้นส่วนหนอนฯชอบกินมาก และที่หาดใหญ่บ้านเขานั้นหากินยาก
อีกวันเราเลยพาแขกของเรามาชิมด้วยเลย เขามีสองแบบคือ หมู และเนื้อค่ะ
(ต้องขออภัย หนอนฯไม่ได้คิดเรื่องจะเอามาเขียนกระทู้  เลยมีถ่ายมาแค่รูปเดียวค่ะ)

ข้าวแช่โรงแรมแลนด์มาร์ค  จะมีขายแค่ช่วงมี.ค และเม.ย.

ข้าวและน้ำ ถูกเสิร์ฟนำมาก่อนในถ้วยกระเบื้องใบสวยทรงโถป้อมๆมีฝาปิดวางมาในพานรอง
ตัวข้าวเมล็ดสวย มีน้ำแข็งวางมาหน่อย
ในโถน้ำ เปิดมาปุ๊ป กลิ่นหอมละมุนนำมาปั๊ปเลยค่ะ น้ำเย็นลอยด้วยน้ำแข็ง

ตอนเราตักข้าวและน้ำลงถ้วย  น้ำยังคงใส กลิ่นหอมละมุนละไม 
เรื่องข้าวและน้ำ หนอนฯให้สิบเต็ม  

( เมื่อปีใหม่ไปกินข้าวแช่ร้านบ้านวรรณโกวิท
https://pantip.com/topic/38419082
แต่หนอนฯว่าข้าวของแลนด์มาร์คดูพิถีพิถันกว่านิดหน่อย แต่ราคาก็แพงกว่ากันเยอะอยู่)

พอชุดเครื่องเคียงมาเสิร์ฟ  เนื่องจากแขกของหนอนฯเป็นมุสลิม เลยสั่งชุดเนื้อให้ลอง เขาประทับใจมากค่ะ บอกว่าแปลก หอม และดูงดงามเป็นเอกลักษณ์
ของเพื่อนไม่กินเนื้อ ก็เอาชุดหมูไป
หนอนฯเองฟาดได้หมด  ก็จกเอาของทั้งคู่ไป อิอิ
เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปดีๆมาเลย


แต่โดยสรุป อร่อยมากค่ะ
ราคาก็ตามนั้น (ดูในรูป ราคาชุดละ350 บาทค่ะ)

สำหรับท่านใดที่ชื่นชอบข้าวแช่  ลองแวะไปชิมดูนะคะ  โรงแรมแลนด์มาร์ค ห้องอาหารกรีนเฮ้าส์ เปิดตลอด24 ชั่วโมงค่ะ ทางโรงแรมบอกว่าจะขายแค่สองเดือนเท่านั้น