กูบอกแล้วใช่ไหมว่า "อย่าทัก"

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ นี่เป็นกระทู้แรกที่เราได้มีโอกาสมาเล่าประสบการณ์ขนหัวลุกให้กับเพื่อนๆฟัง หากใช้ภาษาไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการจัดเรียงลำดับคำพูดเหตุการณ์ที่ไม่ถูกต้อง หรือตั้งกระทู้ผิดประเภท ต้องขออภัยด้วยนะคะ

เรามาเริ่มกันเลย ขอใช้ชื่อนามสมมตินะคะ เราเกิดที่จังหวัดเชียงใหม่ แต่พ่อกับแม่เป็นคนต่างจังหวัดมาทำงานอยู่ที่นี้ เราก็ เลยเติบโตและเรียนหนังสืออยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ เรื่องเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว ตอนนั้นเรากำลังเรียนอยู่ชั้น ปวช.2 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ในช่วงนั้นเราเป็นเด็กดื้อเงียบชอบเที่ยวตอนกลางคืน แต่เวลาไปไหนเราจะขออนุญาตแม่ตลอด ซึ่งตอนนั้นเป็นวัยกำลังอยากรู้ อยากเห็น จะต้องมีปาร์ตี้ สังสรรค์ กินเหล้า (แต่ไม่สูบบุหรี่) เราเป็นคนที่ขี้กลัวผีมาก เชื่อในสิ่งลี้ลับ พวกผีวิญญาณ เวลามีใครเล่าเรื่องผีจะต้องนอนไม่หลับตลอด ซึ่งเราไม่เคยทิ้งการเรียน
ได้เกรด 3 กว่าตลอด และสอบได้คะแนนเยอะที่สุดในห้องเสมอเรามีเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มที่สนิทมากกว่าใครชื่อว่า ออม มันจะชอบมารับที่หน้าบ้าน ให้เราไปนอนเป็นเพื่อนมันที่หอเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งหอมันอยู่ห่างจากบ้านเราพอสมควร อยู่ใกล้เขตมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่ขึ้นชื่อเกี่ยวกับการเกษตร

แล้วมีอยู่วันหนึ่งซึ่งตอนนั้นจำได้ว่าเป็นช่วงฤดูหนาว อากาศตอนนั้นหนาวมาก ตอนเวลาราวๆประมาณ 3 ทุ่ม มีเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นเห็นว่าเป็นออมโทรมา เราก็รับโทรศัพท์ตามปกติ “อื้ม มีอะไร” ออมก็ขอให้เราไปนอนเป็นเพื่อนที่หอมันหน่อย เราก็ตอบตกลงโอเค แล้วก็ไปเก็บเสื้อผ้าเตรียมตัวเพื่อไปนอนเป็นเพื่อนกับออม (เหตุผลที่ออมมันชอบให้เราไปนอนเป็นเพื่อนเพราะว่า ออมมันมีรูมเมทแต่เรียนกันคนละสาขาพักห้องเดียวกับมัน ละรูมเมทคนนี้มันชอบที่จะไปกินเหล้ากับเพื่อนห้องข้างๆ ซึ่งก็เป็นเพื่อนที่เรียนที่เดียวกันแต่เป็นผู้ชาย มันไม่อยากที่จะนอนคนเดียวก็เลยขอให้เราไปนอนเป็นเพื่อน)

สักพักประมาณ 4 ทุ่ม ออมมันก็ขับมอเตอร์ไซต์มารับเราที่หน้าบ้าน ขอเล่าก่อนนะคะว่า เราอาศัยอยู่บ้านพักของหน่วยงานราชการที่อยู่ข้างในสนามกีฬา ซึ่งจะอยู่ติดกับโรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่ง

พอออกมาจากบ้านก็ต้องขับรถผ่านทางโค้ดของโรงเรียนรัฐบาลที่ติดกับสนามกีฬา อยู่ ๆ ก็มีเสียงดัง “ตึ๊ง” เป็นเสียงที่ไม่ดังมาก เสียงมันมาจาก ใต้ท้องรถมอเตอร์ไซต์ (เสียงคลายๆกับก้อนหินที่กระทบกับใต้ท้องรถมอเตอร์) ออมเป็นคนขับ ส่วนเราเป็นคนนั่ง ตอนแรกเราก็ได้ยินนั้นหละ แต่เรานั่งเฉยๆ ทำเป็นไม่ได้ยินอะไร แล้วอยู่ๆ ไอ่ออมมันก็ทักขึ้นมาว่า “เห้ย ! เสียงอะไรวะ ตะกี้ได้ยินปะ”
เราก็เลยด่ามันไป “จะทักทำเห ี้ยอะไร ไม่รู้หรอว่าคนโบราณเขาบอกว่า เจอเสียงดังอะไรเขาไม่ให้ทัก บอกกี่ครั้งละว่าอย่าทักๆ”

เราขอบอกก่อนว่าออมมันเป็นคนที่นิสัยไม่กลัวอะไร หาวๆ เวลาได้ยินเสียงอะไรจะต้องทักตลอด เราเตือนมันก็หลายครั้ง แต่ออมก็ชอบเผลอทักตลอด

ออมมันก็เลยขอโทษเราที่เผลอพูด เพราะมันรู้ว่าเราเป็นคนที่ขี้กลัวผีมากที่สุดในกลุ่ม ขณะที่ออมขับมอเตอร์ไซต์ทางที่กำลังจะไปหอพัก ซึ่งทางไปจะต้องขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำ อากาศก็หนาวสุดๆ ต้องใส่เสื้อกันหนาว2ตัวถึงจะพอบรรเทาคลายความหนาวไปได้ อยู่ๆออมมันก็พูดขึ้นมาว่า “เห้ย ทำไมลมตรงหน้ากูมันอุ่นๆวะ ลมอุ่นมากเลย” เราก็ งงๆ บวกกับได้ยินไม่ชัด มันพูดอะไรของมัน เราก็ถามมันว่า “อะไรนะ อะไรอุ่น” มันก็บอกว่า “ลม ลม  ลมตรงหน้ากูโคตรอุ่น เอามือของยื่นมาตรงหน้ากูดิ” ตอนแรกเราก็ไม่เข้าใจที่มันพูดลมอะไรจะมาอุ่น ตอนนี้หนาวจะแข็งตายอยู่ละ แล้วเราก็ลองเอามือยื่นไปตรงหน้าของไอ่ออมมัน ปรากฏว่า ลมที่หน้ามันอุ่นจริงๆ อุ่นมาก ทำไมมันแปลก เราก็เลยถามกลับไปว่า “เออวะ ทำไมลมมันอุ่นจังเลยวะ”

อยู่ๆไอ่ออมก็พูดว่า “งงงง...เอาแล้วไง มันจะมีใครตามมากับพวกเราหรือเปล่าวะ คิดว่ายังไง?” เราได้ยินที่ไอ่ออมมันพูดก็ตกใจ ด่ามันยกใหญ่ “อีห่า พูดอะไร หุบปากเลย กูกลัว” แล้วเราก็นั่งเงียบๆ มัวคิดว่าทำไมลมมันถึงอุ่นขนาดนั้นทั้งๆที่อากาศหนาวมาก แล้วมันจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่าวะเนี้ย...เริ่มกลัวขึ้นมาแล้วอ่าสิ

เดี๋ยวกลับมาต่อนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
กลับมาต่อนะคะ

    ขณะที่เรานั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซต์ แล้วออมก็ขับอยู่นั้น ตอนที่ผ่านสะพานข้ามแม่น้ำมาเรียบร้อย จะต้องเข้าไปเส้นถนนที่มุ่งหน้าไปสี่แยกไฟแดงหนอง.....

ซึ่งสองข้างทางเป็นทุ่งนามืดสนิท ไม่มีไฟกริ่ง ก็จะมีรถยนต์สวนมาบ้างเป็นประปราย
ในตอนนั้นเรากลัวมาก ใจมันหวิวๆ จินตนาการต่างๆนาๆ
คิดว่าจะมีผีโผล่มานั่งบนต้นไม้หรือเปล่า หรือจะมีผีผู้หญิงผมยาวโผล่มาโปรกมืออยู่ข้างทาง
จู่ๆ เราก็ได้ยินเสียงที่ดังลั่นเป็นเสียงของผู้ชายวัยชรา ร้องว่า “เห้ย!” ในเส้นถนนที่มืดสนิท
เราตกใจสุดขีดนั่งก้มหน้าหลับตา กอดไอ่ออมพร้อมกับ “อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยย งงงงงงงง” สุดเสียง
จนไอ่ออมมันก็ตกใจเสียงเรา จนทำให้รถเซ แล้วไอ่ออมก็ถามเราว่า “เป็นเ ห ี้ยอะไรวะ” เราก็กอดมันอย่างเดียวไม่พูดอะไร
ไอ่ออมก็บอกว่า “ใจเย็นๆ ที่ได้ยินตะกี้ เป็นเสียงลุงที่อยู่ในทุ่งนา กำลังส่องไฟกบอยู่เว้ย กูเห็นอยู่ นี่จิตอ่อนจริงๆ”
พอเราได้ยินที่ออมบอกเรา ก็หัวเราะกันยกใหญ่ เลยคิดว่า ทำไมถึงได้กลัวขนาดนั้น

จนในที่สุดก็มาถึงหอพักของไอ่ออมสักที ตอนนั้นประมาณสัก 5 ทุ่มกว่าๆ
ลักษณะหอเพื่อนเราไม่ได้หรูหราอะไร เป็นหอพักตึก 2 ชั้น  ชั้นหนึ่งจะมีห้องพักประมาณ 5 ห้อง
แล้วก็จะมีลานจอดรถอยู่ตรงหน้าหอพัก ราคาเช่าหอพักก็ไม่แพงมาก
แล้วหอของออมก็จะอยู่ชั้น 1 เป็นห้องตรงกลาง
ซึ่งในตอนนั้นเราก็ลืมเหตุการณ์ที่ออมมันทักเสียงที่ดังใต้ท้องรถมอเตอร์ไซต์นั้นไปซะสนิทเลย
พอไอ่ออมเปิดประตูห้องเข้าไป (ตอนนั้นรูมเมทที่อาศัยอยู่ห้องเดียวกับออม ไม่ได้อยู่ที่ห้องแล้ว มันไปกินเหล้าอีกห้องหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนผู้ชายที่เรียนด้วยกัน)

เราก็เดินมุ่งหน้าเอากระเป๋าโยนไว้ที่เตียงนอน เตรียมเสื้อผ้า ผ้าขนหนู เพื่อที่จะไปอาบน้ำ เตรียมตัวนอน
ส่วนไอ่ออมก็เดินไปนั่งเล่นคอมที่โต๊ะ รอให้เราอาบน้ำเสร็จ
พอเราเข้าไปในห้องน้ำ ก็ถอดเสื้อผ้า เอาผ้าขนหนู และเสื้อผ้าที่ถอด ไปแขวนไว้ที่ราวแขวนผ้า
แล้วก็เดินไปล้างหน้า แปรงฟันที่อ่างล้างหน้า ในขณะนั้นที่เรากำลังแปรงฟันอยู่  

อยู่ๆก็รู้สึกขนลุกไปทั้งตัว ตอนแรกก็คิดว่าอากาศมันหนาว ขนเลยลุก
สักแปปหนึ่ง เราก็รู้สึกว่าเหมือนมีคนกำลังยืนมองอยู่ที่มุมของห้องน้ำ ตรงที่มีราวแขวนเสื้ออยู่ (ความรู้สึกคลายๆว่าเวลาเรานั่งอยู่ หรือทำอะไรก็ตามแต่ ถ้ามีคนกำลังจ้องมองมาที่เรา เราจะรู้เลยว่ามีคนมองเราอยู่ แล้วเราก็จะรีบหันไปมองทันที)
ตอนนั้นเราก็มีความรู้สึกที่กลัว กลัวมาก เลยรีบอาบน้ำ สายตาก็ได้แต่มองตรงมุมห้องน้ำตรงนั้นตลอดจนอาบน้ำเสร็จ
พออาบน้ำเสร็จแล้ว ตอนที่กำลังจะเอื้อมมือไปหยิบเสื้อผ้า กับผ้าขนหนู ตรงราวแขวนผ้า
ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับตรงมุมห้องน้ำเราก็ได้แต่มองๆ  กล้าๆ กลัวๆ รีบคว้าเสื้อผ้ามาทันที

แล้วตอนที่กำลังจะคว้าผ้าขนหนู อยู่ๆ ราวแขวนผ้าก็ตกลงพื้นเสียงดังลั่น เราก็ตกใจ ใจนี่หายวาบบบ...ใจก็เต้นแรง
เรารีบเดินถอยหลังไปยืนตรงกลางห้องน้ำอย่างอัตโนมัติ เอาแต่ยืนนิ่งๆสักครู่หนึ่ง
ความรู้สึกในตอนนั้นใจเสียหมดแล้ว สติจะแตก
เราก็ได้แต่มองตรงมุมห้องน้ำ แล้วเราก็หายใจเข้าลึกๆได้แต่ปลอบตัวเองว่าคงคิดไปเองไม่มีอะไรหรอก
แล้วก็เดินไปเก็บเสื้อผ้าที่ตกลงตรงพื้น รีบแต่งตัว เอาราวแขวนผ้าใส่กลับที่เดิม
แล้วก็รีบย่ำเท้าไปเปิดประตูออกจากห้องน้ำทันที
ก่อนที่จะเปิดประตูเราก็หันกลับไปมองที่มุมห้องน้ำตรงนั้นที่เดิม ความรู้สึกก่อนจะเปิดประตูเรากลัวมาก
กลัวจนไม่อยากอยู่ในห้องน้ำ รีบเปิดประตูออกไป

พอออกมาจากห้องน้ำรู้สึกว่าโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เหมือนอยู่กันคนละโลก
ตอนที่ออกมาจากห้องน้ำแล้วออมมันก็ถามเราว่า “มีอะไรหรอ กูได้ยินเสียงดังในห้องน้ำ ทำอะไรตกวะ”
เราก็เลยตอบมันไปว่า “ไม่มีอะไร แค่ทำราวแขวนเสื้อตกเฉยๆ ไปอาบน้ำได้ละ กูง่วงจะนอนแล้ว”
ในขณะที่ออมมันอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ เราก็มานอนเล่นบนเตียงคิดอะไรไปเรื่อยเปลือยตอนที่กำลังจะเผลอหลับตา
อยู่ๆ ก็เหลือบไปเห็นอะไรสักอย่างหนึ่งในหน้าจอทีวีซึ่งทีวีมันไม่ได้เปิดไว้อยู่

เดี๋ยวมาต่อนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่