สวัสดีค่าาาา..พอดีช่วงต้นเดือน ได้มีโอกาสไปเที่ยวอังกฤษมาค่ะ เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์กันสักหน่อย
แต่ก่อนไปถึงขั้นตอนทริปนั้น เรามาว่ากันด้วยเรื่องแรก ซึ่งหนีไม่พ้นการขอวีซ่ากันเลยดีกว่าเน้าะ 55555
ขอออกตัวก่อนเลยนะคะว่า นี่เป็นการเขียนกระทู้ครั้งแรกเลย ดีไม่ดียังไง ก็แนะนำติชมกันได้น้าาาา
ละอีกอย่างที่อยากบอกก็คือ เหตุผลที่เค้าอยากตั้งกระทู้นี้ก็เพราะว่า ตอนเค้าเตรียมเอกสารขอวีซ่า เค้าก็หาข้อมูลและความรู้จากในอินเทอร์เน็ตอ่านนี่แหละ และรู้เลยว่ากระทู้แบบนี้ น่าจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยใครอีกหลายๆคนได้ ^___^
เอาล่ะ! มาว่ากันด้วยเรื่องตามหัวข้อ ขอวีซ่าอังกฤษด้วยตัวเอง..
หลายคนอาจจะคิดว่าการขอวีซ่าอังกฤษเป็นอะไรที่ยากกกกกกก (ซึ่งตอนแรกตัวเองก็คิดอย่างงั้นแหละ 5555) แล้วอาจจะหลวมตัวไปจ้างเอเจ้นยื่นให้
บอกเลยนะคะว่า No No No !!! อย่าเสียเงินโดยใช่เหตุ เก็บไว้ไป Shopping ที่นู่นดีกว่าค่ะ 555
ต้องย้อนความก่อนนะคะว่า ทริปนี้จะไปกัน 2 คน คือมีเค้ากับเพื่อนอีกคนนึง จริงๆก็เริ่มคิดว่าจะไปเที่ยวอังกฤษกันตั้งแต่เมษา ละตอนแรกก็แพลนว่าจะไปช่วงกลางเดือนตุลา ก็เลยปล่อยเซอร์ค่า ค่อยๆคิดแผนเที่ยวกันไป
และแล้ว....เรื่องมันก็เกิดขึ้นประมาณสิ้นเดือนสิงหา เพราะเพื่อนไม่อาจทนรอได้นานกว่านี้แล้ว ง่ายๆคืออยากไปเลย 555 ก็เลยเปลี่ยน period ค่า มาเป็นต้นเดือนตุลา
ทีนี้ทำไงล่ะ = =’ กุลีกุจอทำแผนการเที่ยวให้เสร็จข่ะ (ต้องขอขอบคุณคุณเพื่อนมา ณ ที่นี้ด้วย ที่เหนื่อยจัดการแผนเที่ยวจนเสร็จ 555)
หลังจากแผนเที่ยวเสร็จ ก็มาถึงการจองโรงแรม ซึ่งเราก็เปลี่ยนโรงแรมกันมาเรื่อยๆนะ เพราะว่าพอเจอถูกกว่า ก็เปลี่ยนสิค้า รอไร 5555 สุดท้ายต้องมา make sure กันว่าเอาโรงแรมไหนบ้าง เพราะว่าต้องใส่ชื่อโรงแรมลงไปในแผนเที่ยวด้วย และ ต่อมาก็คือการจองตั๋วเครื่องบิน อ้อ!ระหว่างที่ทำพวกนี้ไปด้วย พอมีเวลาก็เข้าไปกรอก application online ในการยื่น ขอวีซ่า ผ่านเว็บไซต์นี้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.visa4uk.fco.gov.uk/home/welcome
เค้าอะใช้เวลากรอกหลายวันเลยนะ เพราะว่ากรอกวันละนิดละหน่อย แต่ถ้ามีเวลาทั้งวัน นั่งกรอกวันเดียวก็เสร็จค่ะ คือจะบอกเลยนะคะว่าสำหรับตัวเค้าเองอ่ะ เค้าว่าต้องกรอกเยอะมาก เก็บรายละเอียดยิบเลย เพราะก่อนหน้านี้เค้าเคยขอวีซ่าไต้หวันมา ตอนนั้นว่ายากแล้วนะ มาเจออันนี้ร้องเจี๊ยกเลยจ้า 555
อ่ะ...พอกรอกเสร็จ ก็ต้องเลือกว่า จะนัดไปยื่นวีซ่ากันวันไหน และหลังจากที่คำนวณแล้ว ถ้าช้ากว่าวันที่ 5 กันยา ไม่ทันแน่นอนจ้า แล้วคือไรรร วันนั้นเป็นวันศุกร์ที่ 2 อะไรๆก็ต้องเสร็จวันนั้นแหละ Oh god!!!
พระเจ้าที่ไหนก็ช่วยไม่ได้ละค่า รีบกดจองวันยื่น แล้วก็รีบจ่ายตัง
เอ้อ! เค้าจ่ายผ่านบัตรเครดิตนะคะ แต่เค้าก็ไม่รู้นะว่ามันจ่ายแบบเงินสดได้เปล่า ขอโทษด้วยนะค้า
แล้วคืออะไรรู้มะคะ พอปริ้นเอกสารออกมา ทั้งของเค้าและของเพื่อน ปรากฏว่าเจอข้อมูลผิดค่ะ 1. กรอกวันกลับคลาดเคลื่อนไปหนึ่งวัน 2. ชื่อเก่า ตอนแรกว่าจะลบทิ้งละ แต่ลืมมมมม โทษใครไม่ได้ค่า ก็เครียดไปแปปนึง แต่พอหาข้อมูลอ่าน ก็เลยช่างมันค่ะ เพราะมีหลายคนบอกว่าขีดแก้และเซ็นชื่อกำกับได้ แต่ว่าเค้าก็ไม่ได้ทำไปเลยน้า รอไปถามที่ศูนย์วันจริง
เอาล่ะ มาถึงขั้นตอนการเตรียมเอกสารล้าวววว... สิ่งที่เค้าเตรียม ขอเขียนเป็นข้อๆเลยละกัน จะได้เห็นง่ายๆชัดๆ ใครอยากทราบรายละเอียด คลิก Spoil เน้าะ
1.
ชุด application ที่เรากรอก online :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้พอกรอกครบ หน้าต่อไปจะเป็นให้นัดหมายวันยื่น พอเลือกวันเวลาเสร็จ หน้าต่อไปจะเป็นเรื่องการจ่ายเงิน ยังไงก็อยากให้ตรวจสอบข้อมูลให้เรียบร้อยก่อนจะนัดหมายวันก็ดีน้า เพราะว่าถ้าเรากดจ่ายเงินแล้ว ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีก ต้องยอมรับชะตากรรมไป (เหมือนตัวเค้านั่นเอง5555) พอปริ้นออกมา อย่าลืมตรวจทานเอกสารก่อนน้า ว่าปริ้นออกมาครบทุกหน้ารึเปล่า อิอิ
2.
ใบนัดหมาย (Document Check list) :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ชุดนี้จะมีให้ปริ้นพร้อมชุด application ตอนแรกเค้าก็งงนะ เพราะว่าเห็นคนอื่นมีใบที่บนหัวเขียนว่า Appointment แต่ของเค้ากับเพื่อนไม่มี ก็เงิบกันไปครู่นึง แต่พอไปถามเจ้าหน้าที่vfs ตรง G floor เค้าบอกว่าอันนี้แหละค่าใบนัด
3.
Passport ตัวจริง และสำเนาหน้า Passport :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Passport ตัวจริง ต้องมีหน้าว่างอย่างน้อย2หน้าในการตีวีซ่านะคะ แล้วก็สำเนาอ่ะ ขีดฆ่าได้น้า 555 คนอื่นไม่รู้มีปัญหาไม๊ แต่เค้าชอบมีปัญหากับการเซ็นรับรองเอกสาร ว่าจะขีดฆ่าหรือไม่ขีดดี เสร็จแล้วก็เขียน Certified True Copy พร้อมกับเซ็นชื่อที่เหมือนใน Passport นะค้า อ้อ! ถ้าใครมีเล่มเก่าก็แนบไปด้วยนะคะ
4.
สำเนาบัตรประชาชน :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อันนี้ก็เหมือนกันน้า เซ็นกำกับไปด้วยเน่อออ
5.
สำเนาทะเบียนบ้าน :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อันนี้ก็อีกอ่ะแหละ 555 เซ็นกำกับไป ละก็..ไม่ต้องแปลนะคะ
6.
หนังสือรับรองจากบริษัท :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ส่วนนี้ต้องเป็น ภาษาอังกฤษ นะคะ ในหนังสือควรจะระบุ ตำแหน่ง วันเริ่มงาน เงินเดือน และ Period ที่เราจะไป อย่างของบริษัทเค้า ออกให้แบบข้อมูลครบเลยมีใบเดียว เพราะถือว่าเป็นทั้งหนังสือรับรองเงินเดือนและการทำงานไปในใบเดียวกันค่ะ
7.
เอกสารทางการเงิน :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Statement ย้อนหลัง 6 เดือน และถ้ามีบัญชีอื่นๆที่เป็นเงินเก็บ แนะนำว่าแนบไปด้วยค่า ให้เห็นว่าเรามีเงินในบัญชีทั้งหมดเท่าไหร่ อย่างของเค้านะ เค้ายื่น Statement บัญชีเงินเดือน ซึ่งมีเงินเข้าออกตลอด และมีบัญชีเงินเก็บ 2 บัญชี และบัญชีฝากประจำ 1 บัญชี โชคดีที่ 3 เล่มนี้เป็นธนาคารเดียวกัน เลยขอหนังสือรับรองบัญชีจากธนาคาร ทางธนาคารก็จะรวมยอดทั้ง 3 เล่มให้ และออกใบเดียวค่ะ (ค่าธรรมเนียม 100 บาทต่อใบนะคะ) ทั้งหมดนี้ต้องเป็นภาษาอังกฤษนะคะ
8.
แผนการเที่ยว :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อย่างที่เพื่อนเค้าทำน้า จะแจกแจงเป็นรายวันเลยค่ะ ว่าแต่ละวันไปที่ไหนบ้าง ระบุ Flight no. ทั้งวันไปและวันกลับ
9.
ใบ Booking โรงแรม :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มีกี่โรงแรมจัดไปให้หมดจ้ะ อย่างของเค้า จะมีแวะไป เอดินเบิร์กด้วย เลยจะมีโรงแรม 3 ที่ ก็แนบไปหมดเลยค่ะ
10.
ใบ Booking ตั๋วเครื่องบิน
เอกสารเพิ่มเติมต่างๆ
11.
ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อย่างที่เค้าบอกตอนแรกนู้นนนนว่าจะลบชื่อเก่าออก แต่ลืมลบ 555 ก็เพราะว่าเอกสารที่ยื่นแต่ละอัน ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับชื่อเก่าเลย แต่ในเมื่อต้องเตรียมแล้ว ก็จัดไปข่า เหลือดีกว่าขาดเน้าะ
12.
Cover letter :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อันนี้เค้าเห็นบางกระทู้บอกว่าควรจะมี เลยตัดสินใจทำซะเลย ในนี้ก็บอกเกี่ยวกับตัวเรา วัตถุประสงค์ที่ไป ไปที่ไหนบ้าง (คร่าวๆ) หรือถ้าใครมีสปอนเซอร์ ก็สามารถเพิ่มเติมลงไปได้ค่ะ ใครอยากทราบว่าเขียนยังไง สอบถามเพิ่มเติมได้น้า
13.
สำเนาบัตรพนักงาน :
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จริงๆอันนี้จะมีหรือไม่มีก็ได้นะเค้าว่า แต่เค้าถือคติ 'เหลือไว้ดีกว่าขาด' ก็เลยเตรียมไปด้วยค่ะ เผื่อเจ้าหน้าที่บางคนไม่เชื่อว่าเราเป็นพนักงานจีจี อิอิ
ขั้นตอนการเตรียมเอกสารจบไปละ เดี๋ยวขั้นตอนการยื่นวีซ่า ต่อที่ความเห็นที่ 1 ละกันน้าาาา
แชร์ประสบการณ์การขอ VISA UK (วีซ่าอังกฤษ) ด้วยตัวเอง 2016
แต่ก่อนไปถึงขั้นตอนทริปนั้น เรามาว่ากันด้วยเรื่องแรก ซึ่งหนีไม่พ้นการขอวีซ่ากันเลยดีกว่าเน้าะ 55555
ขอออกตัวก่อนเลยนะคะว่า นี่เป็นการเขียนกระทู้ครั้งแรกเลย ดีไม่ดียังไง ก็แนะนำติชมกันได้น้าาาา
ละอีกอย่างที่อยากบอกก็คือ เหตุผลที่เค้าอยากตั้งกระทู้นี้ก็เพราะว่า ตอนเค้าเตรียมเอกสารขอวีซ่า เค้าก็หาข้อมูลและความรู้จากในอินเทอร์เน็ตอ่านนี่แหละ และรู้เลยว่ากระทู้แบบนี้ น่าจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยใครอีกหลายๆคนได้ ^___^
เอาล่ะ! มาว่ากันด้วยเรื่องตามหัวข้อ ขอวีซ่าอังกฤษด้วยตัวเอง..
หลายคนอาจจะคิดว่าการขอวีซ่าอังกฤษเป็นอะไรที่ยากกกกกกก (ซึ่งตอนแรกตัวเองก็คิดอย่างงั้นแหละ 5555) แล้วอาจจะหลวมตัวไปจ้างเอเจ้นยื่นให้
บอกเลยนะคะว่า No No No !!! อย่าเสียเงินโดยใช่เหตุ เก็บไว้ไป Shopping ที่นู่นดีกว่าค่ะ 555
ต้องย้อนความก่อนนะคะว่า ทริปนี้จะไปกัน 2 คน คือมีเค้ากับเพื่อนอีกคนนึง จริงๆก็เริ่มคิดว่าจะไปเที่ยวอังกฤษกันตั้งแต่เมษา ละตอนแรกก็แพลนว่าจะไปช่วงกลางเดือนตุลา ก็เลยปล่อยเซอร์ค่า ค่อยๆคิดแผนเที่ยวกันไป
และแล้ว....เรื่องมันก็เกิดขึ้นประมาณสิ้นเดือนสิงหา เพราะเพื่อนไม่อาจทนรอได้นานกว่านี้แล้ว ง่ายๆคืออยากไปเลย 555 ก็เลยเปลี่ยน period ค่า มาเป็นต้นเดือนตุลา
ทีนี้ทำไงล่ะ = =’ กุลีกุจอทำแผนการเที่ยวให้เสร็จข่ะ (ต้องขอขอบคุณคุณเพื่อนมา ณ ที่นี้ด้วย ที่เหนื่อยจัดการแผนเที่ยวจนเสร็จ 555)
หลังจากแผนเที่ยวเสร็จ ก็มาถึงการจองโรงแรม ซึ่งเราก็เปลี่ยนโรงแรมกันมาเรื่อยๆนะ เพราะว่าพอเจอถูกกว่า ก็เปลี่ยนสิค้า รอไร 5555 สุดท้ายต้องมา make sure กันว่าเอาโรงแรมไหนบ้าง เพราะว่าต้องใส่ชื่อโรงแรมลงไปในแผนเที่ยวด้วย และ ต่อมาก็คือการจองตั๋วเครื่องบิน อ้อ!ระหว่างที่ทำพวกนี้ไปด้วย พอมีเวลาก็เข้าไปกรอก application online ในการยื่น ขอวีซ่า ผ่านเว็บไซต์นี้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เค้าอะใช้เวลากรอกหลายวันเลยนะ เพราะว่ากรอกวันละนิดละหน่อย แต่ถ้ามีเวลาทั้งวัน นั่งกรอกวันเดียวก็เสร็จค่ะ คือจะบอกเลยนะคะว่าสำหรับตัวเค้าเองอ่ะ เค้าว่าต้องกรอกเยอะมาก เก็บรายละเอียดยิบเลย เพราะก่อนหน้านี้เค้าเคยขอวีซ่าไต้หวันมา ตอนนั้นว่ายากแล้วนะ มาเจออันนี้ร้องเจี๊ยกเลยจ้า 555
อ่ะ...พอกรอกเสร็จ ก็ต้องเลือกว่า จะนัดไปยื่นวีซ่ากันวันไหน และหลังจากที่คำนวณแล้ว ถ้าช้ากว่าวันที่ 5 กันยา ไม่ทันแน่นอนจ้า แล้วคือไรรร วันนั้นเป็นวันศุกร์ที่ 2 อะไรๆก็ต้องเสร็จวันนั้นแหละ Oh god!!! พระเจ้าที่ไหนก็ช่วยไม่ได้ละค่า รีบกดจองวันยื่น แล้วก็รีบจ่ายตัง
เอ้อ! เค้าจ่ายผ่านบัตรเครดิตนะคะ แต่เค้าก็ไม่รู้นะว่ามันจ่ายแบบเงินสดได้เปล่า ขอโทษด้วยนะค้า
แล้วคืออะไรรู้มะคะ พอปริ้นเอกสารออกมา ทั้งของเค้าและของเพื่อน ปรากฏว่าเจอข้อมูลผิดค่ะ 1. กรอกวันกลับคลาดเคลื่อนไปหนึ่งวัน 2. ชื่อเก่า ตอนแรกว่าจะลบทิ้งละ แต่ลืมมมมม โทษใครไม่ได้ค่า ก็เครียดไปแปปนึง แต่พอหาข้อมูลอ่าน ก็เลยช่างมันค่ะ เพราะมีหลายคนบอกว่าขีดแก้และเซ็นชื่อกำกับได้ แต่ว่าเค้าก็ไม่ได้ทำไปเลยน้า รอไปถามที่ศูนย์วันจริง
เอาล่ะ มาถึงขั้นตอนการเตรียมเอกสารล้าวววว... สิ่งที่เค้าเตรียม ขอเขียนเป็นข้อๆเลยละกัน จะได้เห็นง่ายๆชัดๆ ใครอยากทราบรายละเอียด คลิก Spoil เน้าะ
1. ชุด application ที่เรากรอก online : [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
2. ใบนัดหมาย (Document Check list) : [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3. Passport ตัวจริง และสำเนาหน้า Passport : [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
4. สำเนาบัตรประชาชน : [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
5. สำเนาทะเบียนบ้าน : [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
6. หนังสือรับรองจากบริษัท : [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
7. เอกสารทางการเงิน : [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
8. แผนการเที่ยว : [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
9. ใบ Booking โรงแรม : [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
10. ใบ Booking ตั๋วเครื่องบิน
เอกสารเพิ่มเติมต่างๆ
11. ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล : [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
12. Cover letter : [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
13. สำเนาบัตรพนักงาน : [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขั้นตอนการเตรียมเอกสารจบไปละ เดี๋ยวขั้นตอนการยื่นวีซ่า ต่อที่ความเห็นที่ 1 ละกันน้าาาา