ฝันไว้ว่าจะไป Honeymoon ที่สวิสฯ แต่เค้าพาฉันไปเอธิโอเปีย (Ethiopian)

เราเคยฝันไว้ว่า ถ้าวันหนึ่งแต่งงาน เราจะไปฮันนีมูนกันที่สวิตเซอร์แลนด์ เพราะเค้าว่ากันว่าเป็นประเทศที่โรแมนติกมาก อากาศดี ผู้คนน่ารัก เราก็รอ รอมาหลายเพลา สุดท้ายวันนั้นก็มาถึง วันที่แต่งงาน และคิดเสมอว่าเค้าจะพาเราไปสวิตเซอร์แลนด์ ทั้งที่เราก็แอบเอ่ยไปหลายครั้ง เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร เราก็มโนไปว่าเค้า “ตกลง” เราก็แอบดีใจอยู่คนเดียวว่าประเทศในฝันฉันจะเป็นจริงแล้ว

ค้นตู้เสื้อผ้าหาเสื้อกันหนาว เตรียมชุดฟรุ้งฟริ้งไว้รอ แล้วเค้าก็บอกว่า ซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้วนะ เราแอบตกใจว่า เฮ้ย ยังไม่ได้ขอวีซ่าเลย วีซ่าไปสวิตฯขอยากเหมือนกันนะ เดี๋ยวไม่ทัน เค้าก็บอกเราว่าประเทศนี้ไม่ต้องขอ ใช้วีซ่า on arrival  เราเลยเริ่มแอะใจว่า ใช่เหรอ? เลยบอกให้เค้าส่งตั๋วมาให้ดูหน่อย เห็นตั๋วเท่านั้นแหละ เงิบไป 10 วิ เอธิโอเปีย ไม่จริง (ร้องบอกตัวเอง) หันไปบอกเลยว่า คุณๆซื้อตั๋วผิด สวิตฯจ๊ะ ไม่ใช่เอธิโอเปีย เค้ายิ้มใหญ่แล้วบอกว่า ถูกแล้วจ๊ะ เราจะไปฮันนีมูนกันที่เอธิโอเปีย!!!!

แล้วการเดินทางที่ตื่นเต้นและประทับใจที่สุดในชีวิตก็มาถึง จากเสื้อผ้าที่เคยเตรียมไว้ต้องโละใหม่หมด จากเสื้อผ้าฟรุ้งฟริ้ง เปลี่ยนเป็นชุดที่ทะมัดทะแม้นที่สุด กางเกงขายาว เสื้อแขนยาวไม่รัดรูป รองเท้าผ้าใบคู่ถนัด เครื่องประดับไม่ต้อง เครื่องสำอางค์ไม่จำเป็น แต่เสื้อหนาวยังจำเป็นอยู่

เราเดินทางกันโดยสายการบินเอธิโอเปีย ไหนๆก็จะไปประเทศเค้าแล้ว อุดหนุนสายการบินเค้าหน่อย เพราะบินตรง ใช่เวลาในการบินทั้งหมด 9 ชั่วโมง เอธิโอเปียเวลาจะช้ากว่าไทย 4 ชั่วโมง อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา  1 ETB = 1.74 บาท สายการบินเอธิโอเปียใช้เครื่องบินลำใหญ่ค่ะ และเครื่องค่อนข้างดีมาก เบาะนั่งสะอาด อาหารอร่อย ที่สำคัญชีสอร่อยมาก มีบริการเสริฟเครื่องดื่มและขนมตลอดเวลา

เมื่อถึงสนามบินการทำวีซ่าไม่ยุ่งยากนัก ใช้เวลาไม่นานก็ผ่านออกมาได้ เราให้รถที่โรงแรมมารับค่ะ เนื่องจากเราไปถึงที่นั้นค่อนข้างค่ำแล้ว


เราพักกันที่  Afroland Lodge ใน Addis Ababa  ราคาคืนละ 1,800 บาท สำหรับ 2 ท่าน ร่วมอาหารเช้า ห้องพักดีมาก แบ่งออกเป็นห้องนั่งเล่นกับห้องนอน ห้องพักสะอาด ฟรีอินเตอร์เน็ต แต่ช้ามาก อุปกรณ์ต่างๆใช้งานได้ดี


ในส่วนของห้องนอน เรียบง่าย สะอาด ผ้าห่มอุ่น อันนี้สำคัญมาก เพราะภายในห้องไม่มีเครื่องทำความร้อน ผ้าห่มอุ่นๆจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก


สิ่งที่ชอบคือ อาหารเช้าเค้ามาเสริฟให้ที่ห้องพักค่ะ เค้าจะมีรายการอาหารมาให้ แล้วให้เราเลือกว่าจะทานอะไร และรายการอาหารเยอะมาก จะทานกี่อย่างก็ได้

หลังจากกินอิ่ม นอนหลับแล้ว เช้าวันรุ่งขึ้นก็ถึงเวลาสำรวจเมืองค่ะ


เริ่มจากกาแฟก่อนเลย เพราะเอธิโอเปียเป็นดินแดนแห่งกาแฟ ได้ชื่อว่าเป็นกาแฟที่อร่อยที่สุด เราเดินออกมาจากที่พักก็จะเจอร้านกาแฟมากมาย ส่วนใหญ่จะเป็นร้านเล็กๆ เล็กม๊าก (ลากเสียงยาว) มีเก้าอี้เตี้ยๆ 1 ตัว หากไปเกินกว่านี้ นั่งพื้นหรือลังโค้ก


กาแฟที่นี้คั่วกันสดๆ สั่งแล้วค่อยคั่ว แล้วบด จริงๆใช้คำว่าตำน่าจะเหมาะสมกว่า เพราะเค้าจะตำในครกไม้เล็กๆ ที่ตำจะเป็นท่อนเหล็กยาวๆ หนักมาก ใช้เวลาตำไม่นานก็จะได้เป็นผงกาแฟ


เสร็จแล้วเค้าจะนำไปใส่ในกาที่มีน้ำร้อนแล้ว แล้วนำไปอุ่นให้ร้อนอีกครั้ง พร้อมเสริฟ ที่นี้จะทานกาแฟคู่กับป๊อบคอร์นนะคะ แก้วละ 10 ETB กาแฟที่นี้หอมมาก ไม่เปรี้ยว เข้มจนได้กลิ่นเหมือนโกโก้เลย ดื่มไปแก้วเดียวมือสั่นเลย

หลังจากได้คาเฟอีนเข้าเส้นเลือดก็ถึงเวลาเดินสำรวจเมือง และหาของอร่อยทาน เราขอเริ่มจากอาหารก่อนเลยแล้วกัน


เริ่มด้วยไก่ทอด Chicken Hut ไก่ทอดเจ้าดังของที่นี้ หน้าตาอาจจะดูไม่เหมือนไก่ทอด แต่อร่อยค่ะ เค็มๆมันๆ ชิ้นไม่ใหญ่มาก กินคนเดียวหมดกล่องสบายมาก


derek tibs คือเนื้อวัวกะทะร้อน ใช้เนื้อวัว 1/2 กิโล ผัดกับเนย พริก หอมแดง ทานกับแป้ง Injara ราคา 150 บาท เนื้อวัวแทบไม่ปรุงเลย ไม่เหม็นคาว ไม่มีกลิ่นสาบเลย เนื้อยังเหนียวๆแต่ไม่มาก ยิ่งเคี้ยวยิ่งได้รสชาติของเนื้อ


ร้าน Kategna ร้านอาหารเอธิโอเปียร้านดัง อยู่ไม่ไกลจากที่พัก เป็นร้านขนาดกลาง แต่คนเยอะตลอดเวลา เนื่องจากอาหารอร่อย และราคาถูกมาก


เราสั่งอาหารไปจานเดียว เพราะแอบเห็นจากโต๊ะอื่นอาหารค่อนข้างใหญ่  อาหารเสริฟมาในถาดใหญ่ๆ ด้านล่างรองด้วยแป้ง Injara แป้งเย็นๆ รสเปรี้ยว ทำจาก teff (เค้าบอกว่ามีแต่ที่เอธิโอเปีย) แล้วหมักไว้ แป้งจะค่อนข้างเปียก วิธีการทานคือ ฉีกแป้งมาขนาดพอคำ แล้วโป๊ะ(จก) ลงไปในแกงที่เราจะทาน


ในส่วนของแกง ส่วนใหญ่จะเป็นแกงถั่ว แกงไข่ หรือแพะ กลิ่นไม่แรงค่ะ แต่ก็ยังคงได้กลิ่นแพะอ่อนๆอยู่


หลังของคาว ตกท้ายด้วยกาแฟกับป๊อบคอร์น ร้านอาหารทุกที่ในเอธิโอเปียจะมีกาแฟขายค่ะ วันหนึ่งเราดื่มกาแฟกันหลายแก้วมาก แต่เค้าเสริฟมาแก้วไม่ใหญ่ค่ะ


Yohannes Kitfo restaurant เป็นร้านอาหารร้านใหญ่ในเอธิโอเปีย ร้านตกแต่งอย่างดี พนักงานให้บริการดีมาก ช่วงกลางวันคนจะไม่เยอะมาก แต่ตอนเย็นคนจะแน่นร้านเลย เรามาร้านนี้เพื่อมาทานอาหารจานเดียว คือ Kitfo


ไฮไลท์ของเรา เรายกให้ Kitfo ตอนแฟนบอกวันนี้ไปกิน Kitfo กัน เรานึกว่าเป็นอาหารแนวอาหารจีน ชื่อออกแนวจีน แต่พอไปถึงที่ร้านก็รู้เลยว่าไม่ใช่แล้ว แต่พออาหารมาเสริฟ อึ้งหนักเลย ว่ามันคืออะไร


จานนี้เป็นเนื้อวัวสดๆ เนื้อสับคลุกด้วยเนย โป๊ะมาด้วยชีส และแกงผัก พร้อมเครื่องเคียง Injara และแผ่นหน้าตาแปลกๆมาอีก 2 อย่าง


ก่อนลองเนื้อเราขอลองแผ่นนี้ก่อน กัดเข้าไปคำแรก หน้าแหยเลย เหม็นมาก เหม็นกว่าปลาร้าบ้านเราหลายเท่าตัวนัก ทั้งที่ปกติเราชอบกินปลาร้านะ แต่เจอพี่คนนี้เข้าไปยอมเลย เค้าบอกว่าเป็นแป้งที่ทำจากหยวกกล้วย น่าจะมีการหมักเพราะกลิ่นแรงมาก อีกแผ่นพอไหวเหมือนกล้วยหมักตากแห้ง


ขั้นตอนการทานคือ ดึงInjara มาขนาดพอคำ แล้วโป๊ะด้วยเนื้อ ชีส และแกงผัก เฮ้ย!! มันอร่อยไม่น่าเชื่อ ไม่คาวมากเพราะหอมเนย แต่ก็ยังคงคาวอยู่บ้าง จานนี้เรายกให้เป็นจานเด่นของเอธิโอเปียค่ะ แต่หากทานดิบไม่ไหว สามารถให้เค้าช่วยปรุงสุกให้ก็ได้ค่ะ แต่หากอยากสัมผัสรสพื้นบ้านจริงๆ ต้องดิบเท่านั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่