[CR] เริ่มต้นคิดจะเล่นกิจกรรม Bigbike มาดูกันหน่อยดีมั้ยว่าจะเจออะไรบ้าง (ในมุมมองของผม)

กระทู้รีวิว
ในกระทู้นี่คำว่า Bigbike ผมขอเป็นรถที่ระดับใหญ่ เช่น Honda ก็ขอเป็นกลุ่มที่ขายใน Bigwing (500cc up) อะไรประมาณนั่นนะครับ (อย่าดราม่าเรื่อง CC ผมแค่อยากให้เข้าใจตรงกันว่าเราคุยกันที่รุ่นประมาณไหน ทำไมถึงว่าแพง ทำไมถึงว่าแรง อะไรทำนองนั่น)

มักจะได้ยินคนพูดเสมอว่า อยากหา Bigbike สักคันมาเป็นยานพาหนะ  สำหรับผมบอกได้เลยว่า Bigbike “ไม่ใช่(แค่)ยานพาหนะ” มันคือ “กิจกรรม (activity)”  สำหรับผมมันไม่เหมือนรถยนต์ที่ผมก็แค่ซื้อๆเพื่อมาใช้งาน แต่ Bigbike สำหรับผมมันเป็น Activity  คือ ถ้าไม่ได้ชอบในกิจกรรม activity นี้ (ผม หมายถึง ถ้าคุณไม่ได้ชอบขี่มอเตอร์ไซค์ )  ผมก็ไม่เชียร์ให้ซื้อ Bigbike จริง ๆ นะครับ เพราะ อะไรรึครับ มาลองดูข้างล่างกัน

1.คิดว่าสะดวก/รวดเร็วกว่ารถยนต์ - เรื่องที่คนที่ยังไม่มี Bigbike อาจยังไม่รู้

-Bigbike หาที่จอดไม่ง่ายเลยนะ ก่อนจะซื้อ Bigbike เช็คสถานที่ในชีวิตประจำวันก่อนว่า มีที่จอด Bigbike มั้ย ยกตัวอย่างเช่น ตึกที่ผมทำงาน เป็น office building ที่ขึ้นชื่อว่าหรูที่สุด ค่าเช่าแพงที่สุด แต่ Bigbike ของคุณต้องไปจอดรวมกับรถเล็ก ที่ช่องจอดตีตามขนาด wave100
คอนโดที่ผมอยู่ราคา ตรมละ 1 แสน ก็ไม่มีเหมือนกัน ทุกวันนี้ Bigbike ในคอนโดผม ต้องไปจอดแอบ ๆ ตามมุมเสา แทรกกับที่จอดรถยนต์ เพราะช่องตีไว้เล็กแค่พอดี filano แม้แต่บางห้างก็ยังไม่ได้จัดไว้เป็นกิจลักษณะ

-Bigbike ยังถือเป็นมอเตอร์ไซค์บนท้องถนน ใช้กฎจราจรเดียวกันทั้งหมด เพราะฉะนั่น ต้องวิ่งซ้าย ห้ามขึ้นสะพาน ลงอุโมงค์ ห้ามวิ่งทางหลัก ส่วนทางด่วนถ้าไปวิ่งโดนอัดคลิปประจานแน่

-อุปกรณ์ขับขี่ช่างเยอะนัก ไปช็อปปิ้งตามห้าง ดูหนัง กินกาแฟ แทนที่จะเดินตัวปลิ้ว คุณต้องหอบหมวก Arai ใบ 24000 (เพราะกลัวหายและเป็นรอย) พร้อมถุงมือ บางทีมีเสื้อการ์ดด้วย แรก ๆ ดูเหมือนเท่ห์นะ หลัง ๆ ชักรู้สึกเยอะหวะ ปล. ปกติห้างไม่มีที่รับฝาก แต่หน้าโรงหนังพอฝากได้

2.คิดว่าประหยัดกว่ารถยนต์

-ถ้าคุณซื้อ Bigbike แล้วจะถามราคาน้ำมัน ว่ากินมั้ย บอกเลยว่าอย่าซื้อ Bigbike ขับครับ แสดงว่าคุณยังไม่พร้อม เพราะ Bigbike กินน้ำมันไม่หนีรถยนต์  ถ้าห่วงเรื่องค่าน้ำมัน ซื้อรถยนต์ติดแก๊สดีกว่า
-ค่าบำรุงรักษา - Bigbike แพงกว่ารถยนต์ คือ ถ้า Bigbike ราคา 4 แสน ค่าบำรุงจะพอ ๆ กับรถยนต์ราคา 6-7 แสน ยางรถยนต์ 4 เส้น ราคาเท่ากับยาง Bigbike 2 เส้น ,แถม Bigbike เปลี่ยนบ่อยกว่า ,เช็คระยะ Bigbike ถี่กว่ารถยนต์เกือบ 2 เท่า (Bigbike ส่วนใหญ่ทุก ๆ 5-6000 กิโล)
     และยังมีค่าประกันชั้น 1 ที่แพงกว่า รวมทั้งค่า Excess ที่ฟังแล้วตกใจ อันนี้ยังไม่ได้พูดถึงราคาพวกอุปกรณ์ Riding gear ที่แพงเป็นหลักหมื่นๆ
     ซึ่งถ้าเกิดอุบัติเหตุ ค่าความเสียหายของ Bigbike ก็จะมีราคาสูงกว่ารถยนต์ และปกติประกันชั้น 1 จะไม่ครอบคลุมอุปกรณ์ตกแต่ง (ยกเว้นว่าจะแจ้งเขาตั้งแต่ทำประกัน ซึงนั่นก็จะทำให้เบี้ยสูงขึ้นไปอีก) และประกันไม่ครอบคลุม Riding gear ที่แสบสันไปกว่านั่นเบี้ยปรับขึ้นทุกปีทั้ง ๆ ที่ไม่เคยมีเคลม (เป็นเฉพาะบางค่าย)

3.ราคาขายต่อตกแบบฮวบ เมื่อเทียบตามปริมาณการใช้งานและปีผลิต
       รถยนต์ขายต่อมือสอง วิ่งไมล์ 50,000โลถือว่าน้อย หายากที่จะเจอรถยนต์มือสองวิ่งหลักพันโล แต่ในทางกลับกัน หา Bigbike ขายมือสอง วิ่งกันหลัก พันกิโล ไม่ยากเลย บางทีมีหลักร้อยโลด้วยซ้ำ ถ้ารถ Bigbike คุณวิ่งหลักหมื่นก็เรียกว่าเยอะแล้ว เช่น ถ้ารถ Ducati 795 ของคุณวิ่งสัก 8หมื่นโล ก็เริ่มจะขายต่อยากหน่อยแหละถ้าขายได้ก็จะราคาตกแบบสุดๆ แต่สำหรับรถยนต์มือสองวิ่ง 8 หมื่นโล ก็ไม่ค่อยแปลกอะไร
       ผมเคยขาย 795 ตอนนั่นวิ่ง 16000 โล รถใช้ เกือบ 2 ปี คนซื้อถามว่า “โห้ พี่ทำไมรถวิ่งเยอะจัง” ผมก็งงแล้วน้องคิดว่ามันควรจะวิ่งเท่าไหร่กันหละ 16000 โล 2 ปี ตกไม่ถึงเดือนละพันโลนะ ตอนนั่นราคาที่ผมหายไปรวมที่แยกของแต่งขายด้วยแล้ว ใช้รถปีกว่า 16000 โล ผมทำเงินหายไป 140000 บาท ไม่นับพวกค่าประกันชั้น 1 ที่จ่ายไปทั้ง 2 ปี และ ไม่นับพวกค่าเปลี่ยนถ่ายอะไหล่เสื่อม ถ้านับพวกนั่นด้วยก็น่าจะบวกไปอีกประมาณ 4- หมื่น สรุปคือ ปีกว่า ผมหายไป 180000 บาท แล้วอย่าคิดว่า รถญี่ปุ่นจะหายน้อยกว่านี้นะครับ คันล่าสุดผม Vstrom ลดปีกว่าวิ่งประมาณ 12-13000 โล ก็หายไปประมาณ 12-130000 เหมือนกัน อันนี้ขนาดรถผมราคาเริ่มต้นที่ 3-4 แสนนะครับ ถ้าพวกรถระดับล้าน มีหายกันที่ 2-3 แสน นู่น

4.ขี่แล้วเท่ห์ (เฉพาะคนที่ซื้อแล้วคาดหวังกับเรื่องนี้ ไม่ได้บอกว่าหุ่นไม่ดีห้ามขี่นะครับ)

       อันนี้ผมว่าจริงนะ ด้วยเงิน 3-4.5 แสน ซื้อยานพาหนะ รถยนต์คงได้แค่ Eco car แต่สำหรับ Bigbike ก็น่าจะได้ z800 795 fz09 แน่นอนโดยพื้นฐานมันดูเท่ห์กว่า

       แต่ผมกล้าพูดได้เลยว่า ขี่ Bigbike แล้วจะเท่ห์ไม่เท่ห์ ไม่ได้อยู่ที่ขี่รถแพงแค่ไหน มันอยู่ที่ตัวคนขี่มากกว่า คือ คนขี่หุ่นดีมั้ย ถ้าคุณอ้วนพุ่งพรุย ขาใหญ่เท่าถังน้ำมัน แล้วคิดว่าขี่ Bigbike เพื่อหวังเท่ห์ บอกเลยว่ายาก ต่อมาการแต่งตัว ใส่เสื้อยืด กางเกงขาสั้น มันก็ไม่เข้ากับรถ Bigbike อีก จากรถราคาแพง ๆ ดูแว่บ ๆ กลายเป็นรถราคาถูกไปเลย
       แต่ผมมีข้อแนะนำ มั่นใจว่าใช้ได้ผล คือ ถ้าใครไม่ได้เป็นคนหุ่นดี แนะนำว่าให้หา Riding Gear เท่ห์ ๆ มาใส่ครับ ช่วยได้อย่างมาก แนะนำอำพรางร่างเราด้วย Riding Gear เอาแบบเท่ห์ ๆ เลยนะ ผ่านแว่บๆ ปกติหน้าก็ไม่มีใครเห็นอยู่แล้ว ยิ่งใส่เสื้อการ์ด มันทำให้เราดูเป็นคนมีกล้ามขึ้นมาทันที คนเห็นก็ต้องจิ้นว่าข้างใน sixpack ชัวน์  

5.เดินทางท่องเที่ยวได้เร็วขึ้น แต่กลับไปถีงทีหลังรถยนต์
       -จริง ๆ เลยที่ว่า Bigbike เวลาออกทริป ไปได้เร็วกว่ารถยนต์ ขึ้นเขาที่โค้งเยอะ ๆ ก็จะไปได้คล่องตัวกว่า ทำความเร็วได้มากกว่า  แต่สิ่งที่ทำให้ Bigbike ไปถึงปลายทางไม่ได้เร็วไปกว่ารถยนต์ คือ ต้องพักถี่กว่ามากครับ  รถยนต์ขณะขับรถ เรายังทำนู่นทำนี่ได้ เช่น ดืมกาแฟ กินขนม  จะหยิบจะส่งอะไรกันในรถก็ทำได้ง่าย และ รถยนต์ถังน้ำมันใหญ่กว่าต่อหนึ่งถังวิ่งได้นานกว่ารถ Bigbike ค่อนข้างเยอะ
       ส่วน Bigbike ต้องจอดทุกๆ การกระทำ เดี๋ยวเติมน้ำมัน เดี๋ยวแวะกินน้ำ เดี๋ยวแวะพักเหนื่อย เดี๋ยวแวะโทรศัพท์ เดี๋ยวหยิบของ เดี๋ยวแวะกินขนม และแวะแต่ละครั้ง กว่าจะถอดหมวก,ถุงมือ,เสื้อ และก็กว่าจะใส่กลับเข้าไปอีก เพราะฉะนั่น เบ็ดเสร็จ เวลาที่ใช้เดินทางเลยใกล้เคียงกัน (ถ้าเทียบในบุคคลที่ตีนผีพอๆกันนะครับ จะเอา Bigbike ตีนผี ไปเทียบกับรถยนต์หวานเย็นอันนั่นคงไม่ได้)

         -Bigbike ใช้เวลาเตรียมตัวในการออกทริปนานกว่ารถยนต์ และต้องคิดเยอะกว่ารถยนต์มาก ๆ เพราะ รถยนต์อยากขนอะไร ใช้ ไม่ใช้ ก็โยนเข้าท้ายรถไว้ก่อนได้ แต่มอเตอร์ไซค์ ต้องคิดแล้วคิดอีก เอาออก เอาเข้า Packใหม่ รื้อเก็บ Packใหม่ เพราะโดนจำกัดที่ปริมาณการขน
    


6.เวลาไปเที่ยวแวะสะดวกกว่า แต่ลำบากตอนแวะ

          -รถยนต์ จะแวะจอดถ่ายรูปที บางที่ก็หาที่จอดรถยาก จะลงไปถ่ายรูป ก็กลัวจอดข้างทางแล้วตูดยื่น คนขับมาชน จุดนี้ถ้าเป็น Bigbike สะดวกกว่าเยอะครับ อยากจอด จอดเลย ตัวยังคล่อมอยู่ ก็หยิบกล้องมาถ่ายได้ แล้วบิดไปต่อ บรืน ๆ ๆ ได้เลย
       แต่ แต่ แต่ แต่ ...... มันก็แค่ตรงจุดนี้แหละครับ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นว่า ระหว่างทางคุณอยากไปแวะน้ำตก  ปัญหาจะเริ่มเกิดก็ตรง ชุดอุปกรณ์ Riding gear ที่อยู่บนตัวคุณ ทั้งหมวก รองเท้าบู้ต เสื้อการ์ด ไม่รู้จะเอาไปเก็บไว้ไหน จะหิ้วทั้งหมดไปก็ดูกะไรอยู่ จะวางไว้ที่รถก็กลัวหาย คั้นจะใส่ปิ๊บ ก็ที่ไม่พอแหละ ส่วนใหญ่สุดท้ายก็ต้องใช้วิธีไปผูกมิตรกับแม่ค้า แล้วก็ขอฝาก แต่ก็ยังไม่แคล้ว ใจตุ้ม ๆ ต้อม ๆ ว่ามันจะหายมั้ย ไปเดินเที่ยวน้ำตก ก็ไปด้วยความกังวล

7.อันตรายกว่ารถยนต์เยอะมากกกกกกกกกกกกก

    -รถยนต์ คุณพอเดินหน้าถอยหลังได้ ก็พอจะหน้ามึนขับออกไปท่องเที่ยวได้ ถ้าสมมุติเกิดอุบัติเหตุเบาๆ ที่มาจากความผิดพลาดของคุณเอง อย่างมากอาจจะแค่ชน ขอบทาง ไหล่ทาง เสียหายอาจแค่กันชนบุบ
    -Bigbike ไม่ใช่ยังงั้น คำว่า อุบัติเหตุเบา ๆ ที่เกิดจากความผิดพลาดของคุณเอง อาจทำให้เสียชีวิตได้เลย เพราะ ฉะนั่น Bigbike ต้องมาคู่กับทักษะ ทักษะ ทักษะ ต้องหัด ต้องเรียน ต้องซ้อม ต้องไม่ประมาท ต้องมีสติ ต้องไม่คึกคะนอง หลายคนชะล่าใจ ชอบคิดว่ามันเหมือนรถยนต์ เคยให้เพื่อนสอน เคยให้คุณพ่อสอน ขี่มอเตอร์ไซค์ตั้งแต่เด็ก ๆ วันนี้ถอย Bigbike มาใหม่ ก็คิดว่าทักษะที่มีมันพอจะเอาไปขับเที่ยวทั่วไทยได้แล้ว เป็นความคิดที่ผิดมหันต์ครับ
         ถ้าผมพอจะเทียบความสามารถ(แบบคราว ๆ เพื่อจะได้ให้เห็นภาพ) ถ้าให้คะแนนเต็ม 10 สำหรับรถยนต์ ถ้าคุณมีความสามารถสัก 3/10 ก็พอจะเอาไปขับเที่ยวทั่วไทยได้แล้ว
      แต่สำหรับ Bigbike ถ้าคุณมีแค่ 3/10 ไม่ช้าก็เร็วเตรียมตัวมีล้มได้แน่นอน ส่วนตัวผมขอไม่เห็นด้วยกับคำพูดที่ว่า "ขี่ๆไปเถอะ เดี๋ยวก็มีประสบการณ์เอง หรือคำพูดที่ว่า ล้ม(บนถนนหลวง)เป็นเรื่องปกติ เดี๋ยวก็ขี่เก่ง" เพราะ ถ้าคุณโชคร้ายการล้มครั้งแรกของคุณอาจนำพาซึ่งการ" เสียชีวิต " (อย่าคิดว่าผมขู่ เรื่องนี้มีจริง จับรถวันแรก ขี่ออกทริปครั้งแรก แล้วเสียชีวิตเลย เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ไม่ใช่เรื่องแต่งให้มือใหม่กลัว) อย่างน้อยคุณต้องมีทักษะถึง 7/10 เพื่อความปลอดภัยในการขับท่องเที่ยวทางไกล แล้วทักษะก็ไม่ได้มาจากไหน มันก็มาจากการที่คุณไปเรียน ไปศึกษาให้เข้าใจ concept "ที่ถูกต้อง" ย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า "ที่ถูกต้อง" ในการควบคุมรถ ถ้าคุณรู้พื้นฐาน รู้ concept อันนี้แหละ ก็จะตรงกับพูดที่ว่า "ขี่ไปเรื่อย(บนพื้นฐานทักษะที่ถูกต้อง)ก็จะมีประสบการณ์เก่งขึ้นเอง"  "รถล้มได้แต่ขอให้เป็นในสนามหรือในลานขณะที่เราไปเรียน ไปหัดขี่" แต่อย่าให้ล้มบนถนนหลวง การล้มทุกครั้งของมอเตอร์ไซค์บนถนนหลวงอาจนำไปสู่การเสียชีวิตได้เสมอ


- ผมขอย้ำอีกครั้งว่า มือใหม่ก่อนจะไปถอย Bigbike ไม่ว่าจะขี่รถมอเตอร์ไซค์จะเล็ก จะใหญ่มานานแล้วแค่ไหน แต่ถ้าไม่เคยเรียนมาก่อน แนะนำว่า ให้ไปลงเรียน และที่สำคัญ ซื้อ Riding Gear ครบชุด มากองรอไว้ที่บ้านเลย อย่าทุ่มเงินทั้งหมดไปกับการดาวน์รถ ถ้าคุณมีเงินไม่พอซื้อ Riding Gear ด้วย แสดงว่าคุณยังไม่พร้อม เก็บตังค์อีกหน่อยเถอะครับ -

v
v
v
มีต่อ ที่ความเห็นที่ 1 นะครับ
ชื่อสินค้า:   กิจกรรม ที่เรียกว่า Bigbike
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่