คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 220
สรุปเท่าที่อ่านๆมานะครับ
5. จากความเห็นบางส่วนท่านหนึ่ง(402) การไม่ให้ความร่วมมือของบุคคลบางกลุ่มไม่ได้มีเจตนาเรื่องละเลยคนป่วยอะไรแต่อย่างใด แต่เป็นการไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของกาชาดที่จนป่านนี้ก็ยังไม่ชัดเจน เพราะก่อนหน้าไม่เคยแสดงทีท่าหรือปฏิกริยากับเรื่องการแอบอ้างอย่างเป็นจริงเป็นจัง จนกระทั่งให้กาชาดสากลมากดดันจึงทำ แล้วผลก็ออกมาดังที่ว่าคือทำได้แค่ออกหนังสือเตือนไปยังผู้ชุมนุม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ผู้โตในวงการ แล้วก็คิดว่าจบแล้ว ซึ่งคนที่ถูกด่าไม่จบด้วย
แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่รักเพื่อนมนุษย์แต่อย่างใด หลายคนบนน้ั้นก็แสดงจุดยืนแล้วว่าถ้าคนรู้จักต้องการความช่วยเหลือจริง ก็พร้อมไปบริจาคให้ได้ จริงอยู่ว่าตามขั้นตอนเลือดก็ต้องเข้าระบบอยู่ดี แต่มันก็เหมือนจะมีวิธีลัดคือเอาเลือดไปสลับในสต็อก
นอกจากนี้การบริจาคเลือดต้องเว้นช่วงอย่างน้อย 3 เดือน จึงไม่แปลกใจหากคนบางกลุ่มจะต้องการสงวนไว้ยามจำเป็นจริงๆ
ผมเองก็เคยผ่านช่วงนี้เหมือนกันที่เพื่อนมาขอให้บริจาคเลือดช่วยเพื่อนเขาอีกที แต่เพิ่งบริจาคไปเพียงแค่เดือนกว่าเท่านั้น เลยช่วยอะไรเขาไม่ได้
มันก็ประมาณนี้ได้ คนไม่บริจาคตอนนี้ก็ไม่ได้หมายถึงจะไม่คิดช่วยเหลือใครครับ
แต่ถ้าต้องเลือกช่วยเหลือคนไม่รู้จัก กับช่วยเหลือคนใกล้ตัว มันก็ไม่ผิดที่เขาจะเลือกแบบหลังกันเป็นอันดับแรก
นอกจากนี้เดิมทีกาชาดเองมีวิกฤตศรัทธาอยู่แล้ว ก่อนการเมืองเป็นประเด็นคุณก็มีข้อครหาเรื่องเลือด ทั้งเรื่องการให้บริการ การเหยียดเพศ ตามประเด็นข้างต้น ว่ากันว่ามีช่องทางพิเศษในการเข้าถึงเลือดที่ไม่เท่าเทียมอีก ส่วนนี้ผมไม่รู้ละเอียดมาก แต่คนในวงการน่าจะผ่านหูมาพอประมาณ จริงเท็จประการใดว่ากันอีกที แต่ที่แน่ๆ 2 ประเด็นแรกมีคนมาบ่นในกระทู้นี้แล้ว
ก็ถือว่ามีโอกาสได้ไปสัมผัสสถานที่จริงมารู้สึกจริงๆว่าการบริจาคเลือดเป็นอะไรที่เสียสละมาก จนมากเกินไปด้วยซ้ำ เสียเลือดไม่ว่า ก็ต้องเผื่อเสียเวลาไปนั่งรอ แถมเสียเงินค่าเดินทางอีก จนบางทียังแอบคิดแซวเลยว่าน่าจะมีพวกตั๋วพิเศษสำหรับเดินทางขึ้นรถไฟฟ้าสัก 100 บาทน้า เสียบแล้วขึ้นได้เลย จะได้สะดวก
นี่ขนาดเต็มใจบริจาคยังรู้สึกต้องสละไปหลายอย่าง ฉะนั้นแล้วคนที่ทำงานหนักแล้วมีประเด็นการเมือง หรือเกิดวิกฤตศรัทธานี่ไม่ต้องหวังเลยครับ...
ทางแก้
ความเห็นข้างต้นก็เสนอมาได้ถูกแล้วครับ ปัญหาเกิดตรงไหนก็แก้ตรงนั้น คนไม่พอใจกับบุคลากรที่อ้างกาชาดไปเอนเอียงทางการเมือง กาชาดก็ต้องแสดงจุดยืนด้วยการลงโทษอย่างเป็นรูปธรรมครับ จะพักงาน สั่งปลด หรืออะไรต้องแล้วแต่ แต่ต้องมีหลักฐานจับต้องได้ ภาพถ่าย รายชื่อ หน้าข่าว ที่ชัดเจนและเป็นโทษที่สมควรแก่เหตุ เพราะเดิมทีการเอาธงไปใช้ก็มีความผิดทางกฎหมายอยู่แล้ว ลำพังแค่เฟสหรือบอกว่าเตือนแล้วแต่เพราะเป็นผู้ใหญ่เลยไม่กล้ากว่านี้ ก็ไม่ช่วยหรอกครับ
6.จากการศึกษาข้อมูลที่หน้าเว็บไซด์ของศูนย์บริการโลหิต พบว่า....
ปริมาณโลหิตที่ได้รับแต่ละเดือนทั้งหมด
ปี 56 ขอนำมาเป็นตัวอย่างเพียงบางเดือน
มค.---> 63,218 ยูนิต
มิย.---> 52,322 ยูนิต
ธค.---> 53,285 ยูนิต
ปี 57
มค.---> 53,988 ยูนิต
มิย.---> 54,833 ยูนิต
ธค.---> 57,289 ยูนิต
ปี 58 ยังไม่มีข้อมูล
จะเห็นได้ว่า ปริมาณเลือดที่ได้รับมีปริมาณใกล้เคียงกันมากการบริจาคแทบจะไม่ลดลงเลย อาจสรุปได้ว่า ปริมาณโลหิตที่ไม่เพียงพออาจเกิดมาจาก ปริมาณความต้องการเลือดที่เท่าเดิมหรือเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปกติกาชาดก็มีเลือดไม่ค่อยจะเพียงพอเองอยู่แล้ว ดังนั้นประเด็นทางการเมืองอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องน้อยมาก ซึ่งเป็นความผิดเองที่นำมายงทางการเมือง ดังนั้นก็ขอให้เรื่องนี้ผ่อนคลายลงให้มากที่สุดจากคนที่ยังคลางแคลงใจกาชาดอยู่ และร้องขอให้กาชาดออกมาแสดงจุดยืนของตนและชี้แจงรายละเอียดข้อสงสัยให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ขอให้เรื่องนี้คลี่คลายลงโดยเร็ว
การบริจาคเลือดถือเป็นการทำบุญ บริจาคที่ใดก็ได้บุญเหมือนกันทุกโรงพยาบาล หากไม่สามรถบริจาคได้การทำบุญด้านอื่นๆแทนก็ได้บุญเช่นเดียวกันครับ.....
กราบลา.....
1.กาชาดเป็นกลาง แต่คนในกาชาดก็มี 2 ขั้วเหมือนกัน ซึ่งในเหตุการณ์ธงกาชาดวันนั้น
ซึ่งจากในภาพคือ กากบาทแดง (ทั่วโลกรู้ักในนาม กาชาดสากล) ซึ่งกลุ่มนี้อ้างหมายถึงบุคลากทางการแพทย์ ไม่ใช่องกรสภากาชาดไทยไปเอง (ในภาพจะเห็นป้าย รพ.ต่างๆ ซึ่งมาจากทุกที่ ) ซึ่งถ้าธงสภากาชาดไทยไปเองจริงจะเป็นแบบนี้
ซึ่งหากมีคนของสภากาชาดไปร่วมด้วยหรือขึ้นเวที อันนี้ก็คงห้ามไม่ได้แต่ผิดตรงที่ไปประกาศ ไม่รับเลือดฝ่ายตรงข้ามซึ่งกาชาดก็ได้ออกมาลงโทษตักเตือนคนเหล่านั้นอ้างตามคุณสมาชิกแมวเหมียวขายาวว่า
ขอยืนยันค่ะว่าสภากาชาดไทย เป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดจริงค่ะ
และมีหมอพยาบาลบางส่วนเท่านั้นที่เป็น กปปส. ซึ่งผู้บริหารกาชาดได้ตักเตือนเป็นลายลักษ์อักษรแล้ว
แต่ด้วยความเป็นหมอซึ่งมีอิทธิพลสูงต่อองค์กรทำให้ผู้บริหารทำอะไรได้ไม่มากนัก
ขอยืนยันอีกครั้งว่าผู้บริหารพยายามทุกวิถีทางที่จะกู้ภาพลักษ์ความกลางกลับมาอีกครั้งค่ะ
ซึ่งสภากาชาดได้ชี้แจงดังนี้
เพียงแต่ไม่เป็นข่าวดังเท่านั้นเอง
ส่วนเรื่องบทลงโทษ ลองได้อ่านของสมาชิกท่านนี้ดู
ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมสภากาชาดไม่ฟ้องร้องหมอพยาบาลที่เอาธงกาชาดไปใช้ ผมว่า องกรค์นี้คงทำไม่ได้กระมัง องกรค์การกุศล องกรค์ที่ทำเพื่อสาธารณประโยชน์คงไม่ฟ้องใคร ต่อให้ กปปส. หรือ นปช. นำธงไปใช้ ก็คงฟ้องร้องไม่ได้เฉกเช่นเดียวกัน อย่างมากคงทำได้แค่ประนาม หรือท่านอื่นมีความคิดเห็นเพิ่มเติมในเรื่องนี้เชิญครับ
2.เรื่องการเก็บค่าเลือด เท่าที่อ่านๆทุกความเห็นสรุปได้ตรงกันว่า ถึงเลือดจะได้รับบริจาคมาฟรี แต่ค่าอื่นๆ ไม่ฟรีเช่น ค่าถุงบรรจุเลือดชนิดพิเศษ ค่าน้ำยาแยกเลือด ค่าอุปกรณ์ในการตรวจเลือด หมู่เลือดร่วมไปถึงโรคต่างๆ แม้แต่ HIV ไวรัสตับ เป็นต้น อีกทั้งค่าบุคลากรที่มาเจาะเลือด เก็บเลือด เป็นต้น เท่าที่ผมอ่านบางท่านบอกว่ารวมๆ 6-7 พันเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าสภากาชาดคงต้องเก็บเงินจากผู้รับเลือด ซึ่งการรับเลือดของแต่ละโรงพยาบาลก็แตกต่างไปอีก เพราะแต่ละโรงพยาบาลก็อาจบวกอุปกรณ์ในการให้เลือดและค่าบริการทางการแพทย์อีกเช่นเดียวกัน ถึงแม้คุณจะบริจาคเลือดให้ตัวเองหรือญาติคุณเองยังไงก็มีค่าใช้จ่ายแน่นอน
3.เรื่องการบริจาคหากยังครางแคลงใจเรื่องกาชาด ไม่อยากไปบริจาค เท่าที่อ่านๆคอมเม้ม ให้ความเห็นคล้ายๆกันคือ เลือดที่คุณให้คือสีแดงไม่ได้แบ่งเป็นสีอื่นใด อีกทั้ง เลือดนั้นให้คนไข้ทุกคนไม่ถามหรอกเป็นสีไหน หากเลือดขาดแคลน คนสภากาชาดไม่ตายไม่เดือดร้อนแต่คนไข้จากทุกสีจะเดือดร้อน
แต่ถึงอย่างไรหากไม่อยากไปกาชาดจริง ก็บริจาคได้ที่ โรงพยาบาลใหญ่ๆ หรือโรงพยาบาลประจำจังหวัดได้ทุกที โรงพยาบาลเหล่านี้จะได้ลดการขอเลือดจาดสภากาชาดไทยลดลง
4.บางท่านจากคอมเม้นต่างๆ บอกว่า ถ้าเกลียดหมอเกลียดพยาบาล เกลียดกาชาดนักก็จงไปบริจาคเลือดซะเพราะจะทำให้เจ้าหน้าที่ลำบาก เหนื่อย ถ้าคุณไม่ไปบริจาคเลือด เค้าจะสบายไม่มีงานทำนั่งกินเงินเดือนฟรี อ่านะ นี่คิดบวกดีจริง555555
5. จากความเห็นบางส่วนท่านหนึ่ง(402) การไม่ให้ความร่วมมือของบุคคลบางกลุ่มไม่ได้มีเจตนาเรื่องละเลยคนป่วยอะไรแต่อย่างใด แต่เป็นการไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของกาชาดที่จนป่านนี้ก็ยังไม่ชัดเจน เพราะก่อนหน้าไม่เคยแสดงทีท่าหรือปฏิกริยากับเรื่องการแอบอ้างอย่างเป็นจริงเป็นจัง จนกระทั่งให้กาชาดสากลมากดดันจึงทำ แล้วผลก็ออกมาดังที่ว่าคือทำได้แค่ออกหนังสือเตือนไปยังผู้ชุมนุม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่ผู้โตในวงการ แล้วก็คิดว่าจบแล้ว ซึ่งคนที่ถูกด่าไม่จบด้วย
แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่รักเพื่อนมนุษย์แต่อย่างใด หลายคนบนน้ั้นก็แสดงจุดยืนแล้วว่าถ้าคนรู้จักต้องการความช่วยเหลือจริง ก็พร้อมไปบริจาคให้ได้ จริงอยู่ว่าตามขั้นตอนเลือดก็ต้องเข้าระบบอยู่ดี แต่มันก็เหมือนจะมีวิธีลัดคือเอาเลือดไปสลับในสต็อก
นอกจากนี้การบริจาคเลือดต้องเว้นช่วงอย่างน้อย 3 เดือน จึงไม่แปลกใจหากคนบางกลุ่มจะต้องการสงวนไว้ยามจำเป็นจริงๆ
ผมเองก็เคยผ่านช่วงนี้เหมือนกันที่เพื่อนมาขอให้บริจาคเลือดช่วยเพื่อนเขาอีกที แต่เพิ่งบริจาคไปเพียงแค่เดือนกว่าเท่านั้น เลยช่วยอะไรเขาไม่ได้
มันก็ประมาณนี้ได้ คนไม่บริจาคตอนนี้ก็ไม่ได้หมายถึงจะไม่คิดช่วยเหลือใครครับ
แต่ถ้าต้องเลือกช่วยเหลือคนไม่รู้จัก กับช่วยเหลือคนใกล้ตัว มันก็ไม่ผิดที่เขาจะเลือกแบบหลังกันเป็นอันดับแรก
นอกจากนี้เดิมทีกาชาดเองมีวิกฤตศรัทธาอยู่แล้ว ก่อนการเมืองเป็นประเด็นคุณก็มีข้อครหาเรื่องเลือด ทั้งเรื่องการให้บริการ การเหยียดเพศ ตามประเด็นข้างต้น ว่ากันว่ามีช่องทางพิเศษในการเข้าถึงเลือดที่ไม่เท่าเทียมอีก ส่วนนี้ผมไม่รู้ละเอียดมาก แต่คนในวงการน่าจะผ่านหูมาพอประมาณ จริงเท็จประการใดว่ากันอีกที แต่ที่แน่ๆ 2 ประเด็นแรกมีคนมาบ่นในกระทู้นี้แล้ว
ก็ถือว่ามีโอกาสได้ไปสัมผัสสถานที่จริงมารู้สึกจริงๆว่าการบริจาคเลือดเป็นอะไรที่เสียสละมาก จนมากเกินไปด้วยซ้ำ เสียเลือดไม่ว่า ก็ต้องเผื่อเสียเวลาไปนั่งรอ แถมเสียเงินค่าเดินทางอีก จนบางทียังแอบคิดแซวเลยว่าน่าจะมีพวกตั๋วพิเศษสำหรับเดินทางขึ้นรถไฟฟ้าสัก 100 บาทน้า เสียบแล้วขึ้นได้เลย จะได้สะดวก
นี่ขนาดเต็มใจบริจาคยังรู้สึกต้องสละไปหลายอย่าง ฉะนั้นแล้วคนที่ทำงานหนักแล้วมีประเด็นการเมือง หรือเกิดวิกฤตศรัทธานี่ไม่ต้องหวังเลยครับ...
ทางแก้
ความเห็นข้างต้นก็เสนอมาได้ถูกแล้วครับ ปัญหาเกิดตรงไหนก็แก้ตรงนั้น คนไม่พอใจกับบุคลากรที่อ้างกาชาดไปเอนเอียงทางการเมือง กาชาดก็ต้องแสดงจุดยืนด้วยการลงโทษอย่างเป็นรูปธรรมครับ จะพักงาน สั่งปลด หรืออะไรต้องแล้วแต่ แต่ต้องมีหลักฐานจับต้องได้ ภาพถ่าย รายชื่อ หน้าข่าว ที่ชัดเจนและเป็นโทษที่สมควรแก่เหตุ เพราะเดิมทีการเอาธงไปใช้ก็มีความผิดทางกฎหมายอยู่แล้ว ลำพังแค่เฟสหรือบอกว่าเตือนแล้วแต่เพราะเป็นผู้ใหญ่เลยไม่กล้ากว่านี้ ก็ไม่ช่วยหรอกครับ
6.จากการศึกษาข้อมูลที่หน้าเว็บไซด์ของศูนย์บริการโลหิต พบว่า....
ปริมาณโลหิตที่ได้รับแต่ละเดือนทั้งหมด
ปี 56 ขอนำมาเป็นตัวอย่างเพียงบางเดือน
มค.---> 63,218 ยูนิต
มิย.---> 52,322 ยูนิต
ธค.---> 53,285 ยูนิต
ปี 57
มค.---> 53,988 ยูนิต
มิย.---> 54,833 ยูนิต
ธค.---> 57,289 ยูนิต
ปี 58 ยังไม่มีข้อมูล
จะเห็นได้ว่า ปริมาณเลือดที่ได้รับมีปริมาณใกล้เคียงกันมากการบริจาคแทบจะไม่ลดลงเลย อาจสรุปได้ว่า ปริมาณโลหิตที่ไม่เพียงพออาจเกิดมาจาก ปริมาณความต้องการเลือดที่เท่าเดิมหรือเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปกติกาชาดก็มีเลือดไม่ค่อยจะเพียงพอเองอยู่แล้ว ดังนั้นประเด็นทางการเมืองอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องน้อยมาก ซึ่งเป็นความผิดเองที่นำมายงทางการเมือง ดังนั้นก็ขอให้เรื่องนี้ผ่อนคลายลงให้มากที่สุดจากคนที่ยังคลางแคลงใจกาชาดอยู่ และร้องขอให้กาชาดออกมาแสดงจุดยืนของตนและชี้แจงรายละเอียดข้อสงสัยให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ขอให้เรื่องนี้คลี่คลายลงโดยเร็ว
การบริจาคเลือดถือเป็นการทำบุญ บริจาคที่ใดก็ได้บุญเหมือนกันทุกโรงพยาบาล หากไม่สามรถบริจาคได้การทำบุญด้านอื่นๆแทนก็ได้บุญเช่นเดียวกันครับ.....
กราบลา.....
1.กาชาดเป็นกลาง แต่คนในกาชาดก็มี 2 ขั้วเหมือนกัน ซึ่งในเหตุการณ์ธงกาชาดวันนั้น
ซึ่งจากในภาพคือ กากบาทแดง (ทั่วโลกรู้ักในนาม กาชาดสากล) ซึ่งกลุ่มนี้อ้างหมายถึงบุคลากทางการแพทย์ ไม่ใช่องกรสภากาชาดไทยไปเอง (ในภาพจะเห็นป้าย รพ.ต่างๆ ซึ่งมาจากทุกที่ ) ซึ่งถ้าธงสภากาชาดไทยไปเองจริงจะเป็นแบบนี้
ซึ่งหากมีคนของสภากาชาดไปร่วมด้วยหรือขึ้นเวที อันนี้ก็คงห้ามไม่ได้แต่ผิดตรงที่ไปประกาศ ไม่รับเลือดฝ่ายตรงข้ามซึ่งกาชาดก็ได้ออกมาลงโทษตักเตือนคนเหล่านั้นอ้างตามคุณสมาชิกแมวเหมียวขายาวว่า
ขอยืนยันค่ะว่าสภากาชาดไทย เป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดจริงค่ะ
และมีหมอพยาบาลบางส่วนเท่านั้นที่เป็น กปปส. ซึ่งผู้บริหารกาชาดได้ตักเตือนเป็นลายลักษ์อักษรแล้ว
แต่ด้วยความเป็นหมอซึ่งมีอิทธิพลสูงต่อองค์กรทำให้ผู้บริหารทำอะไรได้ไม่มากนัก
ขอยืนยันอีกครั้งว่าผู้บริหารพยายามทุกวิถีทางที่จะกู้ภาพลักษ์ความกลางกลับมาอีกครั้งค่ะ
ซึ่งสภากาชาดได้ชี้แจงดังนี้
เพียงแต่ไม่เป็นข่าวดังเท่านั้นเอง
ส่วนเรื่องบทลงโทษ ลองได้อ่านของสมาชิกท่านนี้ดู
ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมสภากาชาดไม่ฟ้องร้องหมอพยาบาลที่เอาธงกาชาดไปใช้ ผมว่า องกรค์นี้คงทำไม่ได้กระมัง องกรค์การกุศล องกรค์ที่ทำเพื่อสาธารณประโยชน์คงไม่ฟ้องใคร ต่อให้ กปปส. หรือ นปช. นำธงไปใช้ ก็คงฟ้องร้องไม่ได้เฉกเช่นเดียวกัน อย่างมากคงทำได้แค่ประนาม หรือท่านอื่นมีความคิดเห็นเพิ่มเติมในเรื่องนี้เชิญครับ
2.เรื่องการเก็บค่าเลือด เท่าที่อ่านๆทุกความเห็นสรุปได้ตรงกันว่า ถึงเลือดจะได้รับบริจาคมาฟรี แต่ค่าอื่นๆ ไม่ฟรีเช่น ค่าถุงบรรจุเลือดชนิดพิเศษ ค่าน้ำยาแยกเลือด ค่าอุปกรณ์ในการตรวจเลือด หมู่เลือดร่วมไปถึงโรคต่างๆ แม้แต่ HIV ไวรัสตับ เป็นต้น อีกทั้งค่าบุคลากรที่มาเจาะเลือด เก็บเลือด เป็นต้น เท่าที่ผมอ่านบางท่านบอกว่ารวมๆ 6-7 พันเลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าสภากาชาดคงต้องเก็บเงินจากผู้รับเลือด ซึ่งการรับเลือดของแต่ละโรงพยาบาลก็แตกต่างไปอีก เพราะแต่ละโรงพยาบาลก็อาจบวกอุปกรณ์ในการให้เลือดและค่าบริการทางการแพทย์อีกเช่นเดียวกัน ถึงแม้คุณจะบริจาคเลือดให้ตัวเองหรือญาติคุณเองยังไงก็มีค่าใช้จ่ายแน่นอน
3.เรื่องการบริจาคหากยังครางแคลงใจเรื่องกาชาด ไม่อยากไปบริจาค เท่าที่อ่านๆคอมเม้ม ให้ความเห็นคล้ายๆกันคือ เลือดที่คุณให้คือสีแดงไม่ได้แบ่งเป็นสีอื่นใด อีกทั้ง เลือดนั้นให้คนไข้ทุกคนไม่ถามหรอกเป็นสีไหน หากเลือดขาดแคลน คนสภากาชาดไม่ตายไม่เดือดร้อนแต่คนไข้จากทุกสีจะเดือดร้อน
แต่ถึงอย่างไรหากไม่อยากไปกาชาดจริง ก็บริจาคได้ที่ โรงพยาบาลใหญ่ๆ หรือโรงพยาบาลประจำจังหวัดได้ทุกที โรงพยาบาลเหล่านี้จะได้ลดการขอเลือดจาดสภากาชาดไทยลดลง
4.บางท่านจากคอมเม้นต่างๆ บอกว่า ถ้าเกลียดหมอเกลียดพยาบาล เกลียดกาชาดนักก็จงไปบริจาคเลือดซะเพราะจะทำให้เจ้าหน้าที่ลำบาก เหนื่อย ถ้าคุณไม่ไปบริจาคเลือด เค้าจะสบายไม่มีงานทำนั่งกินเงินเดือนฟรี อ่านะ นี่คิดบวกดีจริง555555
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 56
ภาพลักษณ์องค์กรมันเสียหายไปแล้ว เอาคืนมายากมากครับ ถึงได้พยายามห้ามตั้งแต่แรกว่าอย่าเอากาชาดลงไปเลือกข้าง
หลายคนยังจำได้ติดตา ภาพที่เอาธงกาชาดขาวแดง ออกไปเดินขบวนร่วมกับกปปส.
อีกทั้งคำพูดของคนอีกหลายคนบนเวทีนั้น บางคนเป็นหมอ แต่กลับพูดได้ไร้จรรยาบรรณ ตรงข้ามกับวิชาชีพตัวเองสิ้นดี
มีทั้งไม่รับเลือดเสื้อแดง หมอบางคนก็ไม่รับรักษาเสื้อแดง พูดว่ากปปส.มีเป็นล้าน บริจาคเดี๋ยวก็เต็มแล้ว
ส่วนตัวนะ ผมเองถ้าบริจาคได้ก็บริจาค นานๆครั้งเพราะร่างกายตัวเองก็ไม่แข็งแรง
แต่ผมก็ไม่โทษคนที่คิดแบบนี้ เพราะคนที่เริ่มทำให้เค้าคิด ก็เป็นคนในกาชาดเอง
(อ้อ และยังไม่มีการเอาคนผิดมาลงโทษอะไรด้วยนะ)
ผมเองแยกแยะได้ ว่าคนที่เอาภาพลักษณ์ของกาชาดลงไปเกลือกกลั้วกับการเมืองจนเสียหาย ก็เป็นแค่คนไม่มีจรรยาบรรณบางคน ไม่ใช่ทั้งหมด
แต่ จะห้ามไม่ให้คนอีกฝั่งนึง ที่ไม่มีจรรยาบรรณเหมือนกัน คิดแบบเลือกข้างเหมือนกัน ก็คงไม่ได้เช่นกัน
หลายคนยังจำได้ติดตา ภาพที่เอาธงกาชาดขาวแดง ออกไปเดินขบวนร่วมกับกปปส.
อีกทั้งคำพูดของคนอีกหลายคนบนเวทีนั้น บางคนเป็นหมอ แต่กลับพูดได้ไร้จรรยาบรรณ ตรงข้ามกับวิชาชีพตัวเองสิ้นดี
มีทั้งไม่รับเลือดเสื้อแดง หมอบางคนก็ไม่รับรักษาเสื้อแดง พูดว่ากปปส.มีเป็นล้าน บริจาคเดี๋ยวก็เต็มแล้ว
ส่วนตัวนะ ผมเองถ้าบริจาคได้ก็บริจาค นานๆครั้งเพราะร่างกายตัวเองก็ไม่แข็งแรง
แต่ผมก็ไม่โทษคนที่คิดแบบนี้ เพราะคนที่เริ่มทำให้เค้าคิด ก็เป็นคนในกาชาดเอง
(อ้อ และยังไม่มีการเอาคนผิดมาลงโทษอะไรด้วยนะ)
ผมเองแยกแยะได้ ว่าคนที่เอาภาพลักษณ์ของกาชาดลงไปเกลือกกลั้วกับการเมืองจนเสียหาย ก็เป็นแค่คนไม่มีจรรยาบรรณบางคน ไม่ใช่ทั้งหมด
แต่ จะห้ามไม่ให้คนอีกฝั่งนึง ที่ไม่มีจรรยาบรรณเหมือนกัน คิดแบบเลือกข้างเหมือนกัน ก็คงไม่ได้เช่นกัน
ความคิดเห็นที่ 7
เราเองบริจาคให้คนที่เดือดร้อนที่มาประกาศขอเมื่อร่างกายเราพร้อม เราทำแบบนี้บ่อย
เลือดเราคือของเราค่ะ อยากบริจาคให้ใครก็ทำ
เพื่อนเราป่วยบ่อยเราบริจาคให้เพื่อน
แต่เราไม่ได้บริจาคกับกาชาด ตั้งแต่สมัยที่เขาเริ่มออกมายุ่งเกี่ยวกับการเมืองนานแล้ว
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเราไม่เคยลืม
และเราไม่เห็นเหตุผลที่จะไปประชดด่าทอคนที่เขาไม่อยากบริจาคด้วยเหตุผลใดๆเลยเพราะนั่นคือเลือดของเขา เขามีสิทธิ์ตัดสินใจจะให้ใครก็ได้
** กลับเข้าเรื่องที่คุณถามนะคะ ทำไมคนเราคิดแบบนี้
คำตอบคือ ถ้าไม่มีเหตุ มันจะมีผลหรือ
ถ้าไม่มีการด่าทอดูถูกกันก่อน เขาจะโกรธแค้นหรือ
แค่นั้นล่ะ
เลือดเราคือของเราค่ะ อยากบริจาคให้ใครก็ทำ
เพื่อนเราป่วยบ่อยเราบริจาคให้เพื่อน
แต่เราไม่ได้บริจาคกับกาชาด ตั้งแต่สมัยที่เขาเริ่มออกมายุ่งเกี่ยวกับการเมืองนานแล้ว
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเราไม่เคยลืม
และเราไม่เห็นเหตุผลที่จะไปประชดด่าทอคนที่เขาไม่อยากบริจาคด้วยเหตุผลใดๆเลยเพราะนั่นคือเลือดของเขา เขามีสิทธิ์ตัดสินใจจะให้ใครก็ได้
** กลับเข้าเรื่องที่คุณถามนะคะ ทำไมคนเราคิดแบบนี้
คำตอบคือ ถ้าไม่มีเหตุ มันจะมีผลหรือ
ถ้าไม่มีการด่าทอดูถูกกันก่อน เขาจะโกรธแค้นหรือ
แค่นั้นล่ะ
แสดงความคิดเห็น
เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทยแห่งนี้. ความคิดแบบนี้อาจทำให้คนไข้ลำบากมากแน่ๆ
แต่สิ่งที่ทำให้รู้สึกเศร้าใจก็บังเกิดขึ้นเมื่อได้อ่านคอมเม้นเหล่านี้
ขออนุญาตแท็กห้องเหล่านี้ที่คาดว่าจะเกี่ยวข้อง