จาก300,000 เป็น30,000,000 ใน7ปี

ลิ้งที่ 2  http://pantip.com/topic/34473711
ลิ้งที่ 3  http://pantip.com/topic/34481456
ฝากตอนที่ 4 ด้วยยย  http://pantip.com/topic/35207780


ผมอยากเขียนเรื่องราวเล็กๆน้อยๆนี้ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ/แชร์ประสบการณ์ กับผู้ที่กำลังอยากเริ่มประกอบธุรกิจส่วนตัวที่ยังไม่รู้จะทำอะไร กล้าๆกลัวๆ
เคล็ดลับง่ายๆที่ทำได้จริงไม่ต้องมโน ไม่ใช่สานต่อธุรกิจพ่อแม่ แต่self madeได้เอง อาจเป็นตัวเงินไม่มากสำหรับหลายๆท่าน แต่มันมากสำหรับผม เริ่มเลยนะครับ

ก้าวที่ 1 สู่ความล้มเหลว
ระหว่างทางผมขับรถไปส่งของให้ที่บ้าน เห็นตึกแพลตินั่มเปิดจองทำเล ผมจึงเข้าไปทำเรื่องขอเช่า ผ่านไปสองเดือนอีกไม่กี่วันก็จะเปิดตึกล่ะ จึงแวะเข้าไปถาม สุดท้าย จนท บอกน้องไม่เคยมีหน้าร้านขายจึงไม่มีสิทธิ ผมก็หมดหวัง แต่ผมก็อ้อนวอน จนท เห็นว่าเหลืออยู่แค่สี่ห้องที่ทำเลไม่สวย เลยถามน้องจะเอาไหม สรุปผมก็ได้มาหนึ่งห้อง (นี้ละครับดาวนำโชคดวงที่หนึ่ง คือ คุณได้ทำเลทองก็มีชัยไปกว่าครึ่ง) ***
พอได้ปุ๊ปงานเข้า ใครจะช่วยทำ ผมจึงไปชวนให้พี่สาวลาออกจากงานประจำ แล้วให้ความหวังเข้าสุดฤิทธิ์ว่ามันจะเวิร์ค พี่สาวผมก็ร้องไห้ แล้วบอกว่าออกมาแล้วอย่าทิ้งกันนะ ผมก็บอกแน่นอน แต่ในใจผมยังไม่รู้จะเป็นไงเลย (คุณต้องมีหุ้นส่วนที่ความคิดพร้อมจะไปกับคุณ)***
คำถามยอดฮิต แล้วผมจะขายอะไร ผมยังไม่รู้เลยจะขายอะไร มีเวลาอีกสามสิบวัน ผมจึงไปเปิดหนังสือเส้นทางเศรษฐีในมติชน จนไปเจอคอร์สสอนทำรองเท้า ผมจึงใช้เวลาสามสิบวันไปเรียนตัดรองเท้า ส่วนพี่สาวผมให้ไปเรียนตัดเย็บเสื้อยืด พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าจะเกิดไรขึ้น(ไม่มีการวางแผน แล้วไปตายเอาดาบหน้า คือความผิดมหันต์ตั้งแต่แรก)***
สุดท้ายผมได้ออกมาเปิดโรงงานทำรองเท้าแตะ พนักงานสามคน(ทาวเฮาส์เล็กๆ) ผมต้องวิ่งวุ่นไปซื้อวัตถุดิบ แล้วกลับมาทำ แล้วไปส่งเข้าร้าน แถมต้องเฝ้าร้านอีก ชีวิตบัดซบมาก ชีวิตผมช่วงนั้น Loss in decade ไม่ได้เจอใครเลย (ถ้าคุณเป็นศูนย์กลางของการทำทุกสิ่ง คุณก็เตรียมตัวตายไปกับงานเลย)***
ส่วนพี่สาวผมก็ไปจ้างเพื่อนเขาตัดเย็บ สกรีนแล้วออกแบบลายไทย เพราะน่าจะขายลูกค้าต่างชาติได้ โดยช่วงนั้นพี่สาวผมก็จะเฝ้าหน้าร้านเป็นหลัก เชื่อไหมครับว่าเดือนหนึ่งขายรองเท้าแตะได้วันละสี่ร้อย เสื้อวันละสองพัน คิดเอาครับจะรอดไหม(ถ้าคุณทำในสิ่งที่ไม่ถนัด มันจะออกมาเป็นขยะเต็มร้าน)***
ผมฝืนแบบนี้มาหนึ่งปี ขอบอกใครบอกว่าเป็นเจ้านายตัวเองมันสบาย ขอบอกบัดซบมากๆ บางวันขายได้วันละสี่สิบเก้าบาท รองเท้าแตะหนึ่งคู่ ผมกลับมานั่งคิดวางแผนใหม่ว่าไม่ใช่ละ (ผมเริ่มวางแผนละ) กว่าจะเริ่มวางตอนนั้นขาดทุนไปละห้าแสน ผมจึงต้องประกาศปิดโรงงานทำรองเท้าแตะ พร้อมต้อง Lay Off`พนักงานทั้งหมด แต่เสื้อยืดลายไทยยังขายต่อไป(ถ้าคุณทำในสิ่งที่คุณอยากทำแต่ตลาดไม่ได้ต้องการ คุณก็จะได้ใช้มันเพียงคนเดียว)***
ผมจึงเริ่มไปโบเบ้ สำเพ็ง โรงเกลือ นำสินค้ามาขายเปลี่ยนสินค้าไปกว่าสิบชนิด เช่น รองเท้าส้นสูง กระเป๋า เสื้อยืด เข็มขัด กางเกง ร้องเท้าผ้าใบ โดยสต๊อกบางส่วนก็เก็บไว้ที่โรงงานที่ยุบไป ก็เริ่มกลับมาขายได้แค่อยู่ไปวันๆ (ถ้าคุณขายสินค้าที่หาได้เหมือนกันทุกๆที่ ไม่มีความแตกต่าง คุณก็จะแค่อยู่ได้) ***
ช่วงนั้นผมก็มีเวลามาอยู่หน้าร้าน แล้วเริ่มจ้างเด็กมาขายหน้าร้าน เพราะเริ่มอยู่ตัว แต่ไม่มีกำไร วันๆขายได้วันละ5000-6000 ผมเคยคิดคนอื่นเค้าขายไงหว่า วันละแสน เชื่อไหมผมคิดไม่ออกเลย เพราะแค่หมื่นผมยังไม่เคยสัมผัส ชีวิตเหมือนจะราบเรียบ จนวันนึงผมแวะกลับไปเอาสต๊อกที่โรงงาน เชื่อไหม ไม่เหลือสินค้าใดๆในโรงงานเลย ผมโดนยกเค้า จากเด็กขี้ยาแถวนั้น ของหายหมด สายไฟ เครื่องเย็บจักร หมด หมด หมด ชีวิตดับสูญ
วันนั้นจึงได้มีโอกาสคุยกับพ่อ ถึงตอนนี้จะขาดทุนไปแล้วกว่าเจ็ดแสนแต่ลูกได้พยายามล่ะ (กำลังใจจากรอบข้างคือส่วนนึงที่คุณต้องมี)***
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่