คนทำหนังไทยช่วยมีศักดิ์ศรีหน่อย อย่าทำอะไรที่ดูไร้คุณค่าแบบนี้เลย



ปัจจุบันโลกของเรามีการสื่อสาร มีช่องทางเลือกของผู้บริโภคที่เข้าถึงกระแสโลกได้ การผลิตหนังไทยออกมา โดยหวังแค่การตีหัวเข้าบ้าน ให้คนไทยไปดู แล้วพอคนไทยไม่สนใจ ก็ออกมารณรงค์ให้คนไทยดูหนังไทย แบบนี้เป็นวิธีคิดที่ผิดมาก

แม้ไทยเราจะอ้างว่าต้นทุนในการทำหนังไม่เยอะเหมือนฝรั่ง แต่สิ่งที่เราสามารถทำออกมาได้ก็คือต้นทุนทางสมอง ถ้าเราทุนทางด้านวัตถุน้อย เราต้องไปเน้นต้นทุนทางด้านสมอง วิธีคิด พล็อตเรื่อง เดี๋ยวนี้อินเตอร์เนตเข้าถึงเกือบทุกบ้าน หนังไทยเราไม่ได้แข่งแค่ในบ้าน แต่เราต้องแข่งกับหนังฮอลลีวู้ดด้วย ด้วยตั๋วหนังที่ราคาเท่ากัน หนังไทยอย่าง ฟินสุโค่ย จะต้องไปสู้กับ The Maze runner จะต้องไปสู้กับ Annabelle สู้ด้วยทุนยังไงเราก็แพ้ แต่สิ่งที่หนังไทยควรพัฒนาคือ บทภาพยนตร์ การใช้สมองในการสร้างสรรค์งานให้แปลกใหม่และโดนใจคนไทย และสุดท้ายเมื่อหนังไม่ได้ตัง

จงอย่าได้ออกมารณรงค์เรียกร้องโอดครวญให้คนไทยต้องดูหนังไทย มันไม่มีศักดิ์ศรีเอาเสียเลย ยิ่งเอาดารามาเดินถือป้ายนี่มันยิ่งตอกย้ำว่าคุณขายดาราไม่ได้ขายคุณภาพหนังของคุณ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



ส่วนนี่เป็นกระทู้ยืนยันว่าผมไปดูหนังมาแล้ว หนังไม่ผ่านอย่างแรง



http://pantip.com/topic/32629452
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 40
คือ ไอ้ ผกก ที่ชอบมาบอกว่า "มาทำหนังเองไหม" เอาส๊งติงคิดหรือไงครับ เพราะ หนังที่คุณทำมันห่วย บทแย่ ตัดต่อห่วย แสงไม่ได้
การแสดงกาก เดินเรื่องบัตสบ ถ้าไม่มีปัญญาคิดปัญญาทำ

ไม่ต้องทำครับ

ไอ้ที่เราวิจารณ์ก็แค่ไม่อยากได้ขยะในโรงหนังเยอะเกินไป เพราะอย่างน้อยๆ ถ้าหนังไทยกากๆมันน้อยลง พื้นที่ในโรงหนังก็จะมีให้หนังฝรั่งดีๆ
อยู่ได้นานขึ้น ผกก ขยะ หนังไทยขยะ ก็อยู่ในรูต่อไปดีแล้ว โอเคไหมครับ ส่วน ผกก ดีๆ ก็ขอให้รักษามาตรฐานไว้หน่อยครับ
ไม่ใช่ สามวันดีสี่วันไข้ พอใครวิจารณ์อะไรก็ท้าทายให้เขามาทำแทนไหม คิดแบบนี้มันเหมือนเด็กไปไหม
ความคิดเห็นที่ 5
คิดมากเกินไปครับ มันคือการโปรโมทรูปแบบหนึ่งที่ใช้เหมือนกับมีการเดินประท้วง ต่างประเทศก็ทำเหมือนกัน หนังเรื่องนี้เลือกใช้คำที่เหมือนอยากให้เห็นใจหนังไทย แต่ชื่อหนังยังเอาคำภาษาอื่นมาใช้ทั้งฝรั่งทั้งญี่ปุ่น เห็นแล้วสมเพชลึกๆ
ความคิดเห็นที่ 16
เป็นการ PR อย่างนึง แต่ผู้จัดก็ลืมไปว่า คนไทยเบื่อแล้ว กับการชูป้ายแนวคล้ายๆการประท้วง เพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหลายคนเบื่อ
และเอียนกับการประท้วงเต็มทีแล้ว

แค่เห็นก็เอียนเต็มทีบางคนขยาดกับการเห็นคนเดินขบวนคนถือป้ายไปเลย ซึ่งแทนที่มันจะเป็นจุดขาย แต่กลับทำให้บางคนรู้สึกต่อต้าน มันเป็นเรื่อง
ทางจิตวิทยาการตลาดอย่างนึงครับ

ผมว่างานนี้ทีม PR ครีเอทการโฆษณาได้ไม่ค่อยประทับใจเท่าไร มีวิธีโปรโมทอีกเยอะหลายวิธีที่น่าสนใจกว่านี้
ความคิดเห็นที่ 25
การพีอาร์แบบชูป้ายหรือแฟลชม็อบไม่ผิด ผิดที่ข้อความที่อยู่บนป้ายต่างหาก
ความคิดเห็นที่ 37
จนพี่พจน์หมั่นไส้หัวเราะ

โพสต์โดยคุณวิทย์ ไชย.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่